“พลิกชีวิตด้วยขนมปังเนยหนึบ” เบนซ์ – ทรงวุฒิ เยือกเย็น จากเด็กทุน กยศ. สู่เจ้าของธุรกิจขนมปังกรอบโกอินเตอร์ ยอดขาย 80 ล้าน

06 มิถุนายน 2022

ถ้าพูดถึงขนมปังกรอบ หลาย ๆ คนอาจนึกถึงขนมปังแผ่นขนาดประมาณนามบัตรทาเนยอบกรอบแล้วโรยน้ำตาล แต่สำหรับธุรกิจของ เบนซ์ – ทรงวุฒิ เยือกเย็น ศิษย์เก่าวิทยาลัยดุสิตธานี สาขาการจัดการครัวและศิลปะการประกอบอาหาร ขนมปังกรอบที่สร้างความมั่นคงและอนาคตให้กับชีวิตของเขาเป็นสูตรที่เขาคิดค้นขึ้นมาเองโดยอาศัยความรู้ความสามารถที่ได้ร่ำเรียนจากวิทยาลัยฯ ประกอบกับประสบการณ์ของเขาสร้างสรรค์ออกมาเป็นขนมปังกรอบ category ใหม่ของโลกที่เรียกว่า “ขนมปังเนยหนึบ” 

หากให้เปรียบเทียบกันระหว่างขนมปังกรอบโรยน้ำตาลทั่วไปกับขนมปังเนยหนึบของเบนซ์ที่ใช้ชื่อแบรนด์ว่า “BenPan Bangkok” จุดต่างที่ชัดเจนอย่างหนึ่งคือเรื่องของความ “หนึบ” เพราะสิ่งที่อยู่บนหน้าขนมปังเนยหนึบไม่ได้มีแค่เนย แต่มีนมเป็นส่วนผสมด้วย และด้วยเทคนิคการผลิตแบบพิเศษของเบนซ์ ทำให้ขนมปังเนยหนึบมีทั้งความกรอบ หนึบ และหอมไปพร้อมกัน ซึ่งในปัจจุบัน ขนมปังเนยหนึบของ BenPan Bangkok มีให้เลือกมากกว่า 13 รสชาติแล้ว 

นอกจากความเข้มข้นของรสชาติขนมปังเนยหนึบแล้ว ชีวิตของเบนซ์ก็เข้มข้นไม่แพ้กัน ซึ่งเขาได้เปิดเผยว่า “สมัยเด็ก ๆ เราถือว่าเป็นคนยากจนคนหนึ่ง เราโตมาแบบค่อนข้างขาดแคลน เราเลยเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยเพื่อส่งตัวเองเรียน เราเป็นติวเตอร์ เราขายตรง เราขายของหลายอย่างมากจนมีคนเรียกเราว่าอายุน้อยร้อยอาชีพ ที่เรามาเรียนที่วิทยาลัยดุสิตธานีได้ก็เพราะเรากู้ กยศ. ซึ่งต้องขอบคุณ กยศ. จริง ๆ ไม่อย่างนั้นเราคงจะไม่ได้เรียนที่นี่ พอไม่ได้เรียนที่นี่ ขนมปังเนยหนึบก็อาจจะไม่เกิดขึ้นมาในโลกก็ได้ การได้ทุนของ กยศ. ช่วยให้เรามีเวลาทุ่มเทให้กับการเรียน การฝึกงาน หรือทำอย่างอื่นนอกจากหาเงินเพื่อจ่ายค่าเทอมได้” 

จากความยากจน เบนซ์ได้ต่อสู้กับความยากลำบากเพื่อวิ่งไปข้างหน้าจนพบกับประตูบานแรกที่เปิดโอกาสสู่ธุรกิจ 

“ในตอนนั้น ความสนใจของเรามีแต่ทำอะไรก็ได้ให้รวย ตอนมาเรียนเลยกลายเป็นว่าเรียนแล้วตาข้างหนึ่งก็มองหาวิธีการทำอย่างไรให้รวย มารู้ตัวว่าต้องทำธุรกิจก็ตอนช่วงปี 3 เทอม 2 หรือปี 4 ที่เรียนไฟแนนซ์กับบัญชี เรามีเรียนเรื่อง future value ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้เห็นว่ามูลค่าของเงินในปัจจุบันกับเงินในอนาคตไม่เท่ากัน เงินมีการเสื่อมค่า เราเลยมองว่าคนรวยเขารวยเพราะมีการลงทุน เลยเป็นจุดเริ่มต้นให้เห็นระบบธุรกิจ เราเลยเซ็ตตัวเองว่าจะไม่ทำงานประจำ เรียนจบออกไปจะต้องไปค้าขายและทำให้รวย” 

หลังจากเรียนจบ เบนซ์ได้ตระหนักถึงสิ่งสำคัญของการทำธุรกิจว่า ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จนั้นไม่ได้อาศัยแค่สินค้าเพียงอย่างเดียว แต่อาศัยความรู้ความเข้าใจและการตลาดด้วย 

“เราขายของมาหลายร้อยอย่าง ตั้งแต่อสังหาฯ บ้าน รถ ขายทุกอย่าง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จสักอย่าง เพราะเราไม่ได้มีความเข้าใจในธุรกิจนั้น เราทำเพราะอยากรวยอย่างเดียว เราลงทุนไปโดยขาดความรู้ความเข้าใจ จนสุดท้ายเราไม่เหลืออะไร ช่วงที่ขายตรง เราเป็นหนี้บัตรเครดิตอยู่แสนกว่าบาท รถที่ได้มาช่วงนั้นก็โดนยึดไป เลยต้องมีหนี้ผ่อนชำระ เรามีไปขายของที่ตลาดนัดด้วยเหมือนกัน เราก็เจ๊งเพราะเราทำแต่สินค้า เราเคยทำทั้งปลาแดดเดียว ขนมเปี๊ยะ คอหมูกรอบ ของอร่อยมากแต่การตลาดไม่ดี ก็ตายจบจากไป ทุกอันเป็นแบบนี้หมด พอมาช่วงที่เริ่มทำบราวนี่ เราเป็นเจ้าแรก ๆ ที่เริ่มขายในออนไลน์ พอเราเริ่มทำการตลาดบน Facebook เริ่มยิงโฆษณา มันเหมือนสินค้าที่ใช่ได้เจอกับการตลาดที่ถูกต้อง มันเลยโตเร็ว แรก ๆ วิ่งส่งบราวนี่เอง ทำเองทุกขั้นตอน รับออเดอร์กลางคืน เช้าอบบราวนี่ กลางวันไปส่ง จนหลังจากนั้นเราส่ง Kerry เรามีตัวแทนจำหน่าย” 

เมื่อเริ่มจับทางธุรกิจถูก ขนมปังเนยหนึบจึงเกิดขึ้น เบนซ์ได้เรียนรู้ทักษะต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของตน รวมถึงทักษะการเอาตัวรอดจากสถานการณ์ไม่คาดฝัน 

“ตอนที่กิจการขนมปังเราเริ่มดี มีลูกค้าเข้าคิวรอขนมปังเราถึง 6 เดือน เราเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจแล้ว เราเลยขอกู้เงินธนาคารมาซื้อเตาปิ้งเพิ่ม ตัวละประมาณ 7-8 แสนบาท เราเลยไปคุยกับเจ้าของโรงงานผลิตเตาว่าขอให้เขาช่วยเราหน่อย เขาก็ให้เราผ่อนค่าเตาได้ 3 เดือน ผ่อนมาเดือนที่ 2 จู่ ๆ มีรถตู้สีขาวมาจอดหน้าบ้านที่เราเช่าอยู่ มีเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตลงรถตู้มา เอาหนังสือสั่งปิดกิจการมาให้เรา เพราะเพื่อนบ้านโทรไปแจ้งว่าบ้านเราส่งกลิ่น สร้างไอร้อน และทำเสียงดังรบกวนตลอดเวลา วันนั้นเราก็นั่งร้องไห้ เราไปที่สำนักงานเขต ขอต่อรองเวลาย้ายออกอีก 7 วัน ผู้ใหญ่เขาก็เอ็นดูเราเลยได้เพิ่มเป็น 14 วัน เราเลยรีบหาที่อื่นเช่า ขับรถไปร้องไห้ไป ไม่มีอะไรพร้อมสักอย่าง พอได้โรงงาน ก็ต้องมาเซ็ตทุกอย่าง ทั้ง อย. ระบบบำบัดน้ำเสีย ค่าเช่าก็ต้องยืมเงินน้อง ๆ ที่เป็นตัวแทนขายเพราะธนาคารไม่ให้กู้ ดีที่เรามีความรู้เรื่อง food safety จากที่เราเรียนมาช่วยให้โรงงานเป็นรูปเป็นร่างขึ้น กว่าเราจะเริ่มส่งออกได้ก็ใช้เวลา 3 ปี เพราะการขอ GMP HACCP (ตราสัญลักษณ์รับรองมาตรฐานอาหารและการผลิตที่ปลอดภัย) ใช้เวลานาน ใช้เอกสารในการตรวจสอบเยอะ” 

ทุกวันนี้ ไม่เพียงแค่ชาวไทยเท่านั้นที่ชื่นชอบขนมปังเนยหนึบของเขา นักธุรกิจจากไต้หวัน เกาหลีใต้ มาเลเซีย และประเทศอื่น ๆ ก็ทยอยเข้ามาหาเบนซ์ จากจุดเริ่มต้นเป็น homecook ที่อบขนมเองที่บ้าน โดนสำนักงานเขตสั่งปิดกิจการ สู่การเป็นโรงงานผลิตขนมที่ได้มาตรฐานระดับโลกพร้อมผลิตสินค้าส่งเข้าร้านสะดวกซื้อกว่า 3-4 พันสาขาทั่วประเทศและส่งออกต่างประเทศ 

สำหรับใครที่สนใจสร้างธุรกิจของตนเอง เบนซ์ได้ฝากข้อความไว้เพื่อเตือนใจในอนาคต ณ วันที่ธุรกิจประสบความสำเร็จ 

“ทุกวันนี้ เราก็ยังอยู่บ้านเช่า น้อง ๆ ตัวแทนก็มาถามว่าทำไมไม่ซื้อบ้านของตัวเอง เราก็บอกว่าเราได้เรียนรู้จากการทำธุรกิจ กับเจ้าของ SME อื่น ๆ เขาสอนเรื่องของ lifestyle ถ้าวันหนึ่งเราขับเบนซ์ เราจะไม่รู้สึกอยากกลับมาขับรถญี่ปุ่น ถ้าเราขยาย lifestyle ให้สูงขึ้นแล้ววันหนึ่งธุรกิจมันไม่เป็นใจ การเงินไม่เป็นใจ มีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีก เราจะลด lifestyle ตัวเองลงมายากมาก ดังนั้นยิ่งเราใช้ชีวิตให้ simple มากเท่าไหร่ เราก็จะได้รายได้เพิ่ม ซึ่งเราก็สามารถสะสมเงินตรงนี้แล้วไปลงทุนได้ แล้ววันหนึ่งที่มันเกิดสินทรัพย์ เกิดอสังหาฯ ที่ก่อรายได้ขึ้นมามากพอ เราค่อยมาขยาย lifestyle ก็ได้” 

“ถ้าหากเราจะเป็นหนี้ ต้องเป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้ ไม่ใช่หนี้ที่เกิดจาก lifestyle ชีวิตที่ไม่มีหนี้นี่แหละดีที่สุด” 

DTC Talk

สอบถามเพิ่มเติม

สำนักประชาสัมพันธ์

โทร: 02 721 7811–3 อีเมล: pr.pr@dtc.ac.th

ข่าวอื่น ๆ

09 ธันวาคม 2025

วิทยาลัยดุสิตธานีลงนาม MOU กับวิทยาลัยอาชีวศึกษาออมสินอุปถัมภ์ เสริมสร้างความร่วมมือทางวิชาการ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2568 วิทยาลัยดุสิตธานี นำโดย ดร.ประวีณา คาไซ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา พร้อมคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับคณะจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาออมสินอุปถัมภ์ ในโอกาสร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) เพื่อเปิดโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาหลักสูตรที่สอดคล้องกับสาขาวิชาศิลปะการประกอบอาหาร การจัดการโรงแรม และหลักสูตรนานาชาติ รวมถึงการสนับสนุนกิจกรรมการเรียนการสอน การศึกษาดูงาน และการฝึกปฏิบัติการ เพื่อเตรียมความพร้อมนักศึกษาให้มีทักษะตรงตามความต้องการของอุตสาหกรรมบริการ ความร่วมมือครั้งนี้ยังมุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรครู การจัดกิจกรรมวิชาการ และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างยั่งยืน

09 ธันวาคม 2025

วิทยาลัยดุสิตธานีจัดโครงการ “บุคลิกภาพคือพาสสปอร์ตสู่อุตสาหกรรมบริการ” เตรียมความพร้อมนักศึกษาสู่โลกการทำงาน เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 ฝ่ายกิจการนักศึกษา แผนกพัฒนาอาชีพ วิทยาลัยดุสิตธานี จัดโครงการ “บุคลิกภาพคือพาสสปอร์ตสู่อุตสาหกรรมบริการ (Personality As Your Hospitality Passport)” เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและพัฒนาบุคลิกภาพของนักศึกษาให้พร้อมก่อนเข้าสู่โลกการทำงานจริงในอุตสาหกรรมบริการ โดยมีการบรรยายและเวิร์กช็อปจากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเสวนาพิเศษเกี่ยวกับบุคลิกภาพและเส้นทางอาชีพในธุรกิจโรงแรม กิจกรรมนี้เปิดโอกาสให้นักศึกษาทุกชั้นปีเข้าร่วม เพื่อเตรียมความพร้อมตั้งแต่เนิ่นๆ และเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมบริการในอนาคต

09 ธันวาคม 2025

วิทยาลัยดุสิตธานีร่วมกับสมาคมศิษย์เก่าจัดโครงการ “DTC ปันน้ำใจ รวมใจสู่ชาวใต้ ครั้งที่ 2” จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา วิทยาลัยดุสิตธานีร่วมกับสมาคมศิษย์เก่าวิทยาลัยดุสิตธานีจัดโครงการ “DTC ปันน้ำใจ รวมใจสู่ชาวใต้ ครั้งที่ 2” เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยได้รับเงินบริจาคจำนวน 23,200 บาท พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวนมาก เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2568 วิทยาลัยสนับสนุนร้านศิษย์เก่าในการจัดทำอาหารกล่อง 200 กล่อง และได้รับความร่วมมือจากศิษย์เก่าในพื้นที่หาดใหญ่จัดเตรียมข้าวสาร 120 กิโลกรัม นมกล่อง 360 กล่อง และอาหารกล่องเพิ่มเติมอีก 700 กล่อง เพื่อนำไปมอบให้โรงพยาบาลหาดใหญ่ ต่อมาในวันที่ 4 ธันวาคม 2568 วิทยาลัยและสมาคมศิษย์เก่าได้ส่งมอบสิ่งของบริจาคให้สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป วิทยาลัยดุสิตธานีขอขอบคุณทุกแรงสนับสนุนที่ร่วมส่งต่อกำลังใจและความช่วยเหลือไปยังผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้

สอบถามเพิ่มเติม

สำนักประชาสัมพันธ์

โทร: 02 721 7811–3 อีเมล: pr.pr@dtc.ac.th