“จิตบริการสานฝันสู่นานาชาติ” แบมบู – พัชรพล เด่นงามวศิน ใช้ทักษะของการโรงแรมสร้างโอกาสมีส่วนร่วมในกิจกรรมระดับนานาชาติ 

05 กรกฎาคม 2023

หากใครที่กำลังสงสัยว่า “สาขาโรงแรมต้องเรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง” หรือ “เรียนโรงแรมแล้วทำงานอะไรได้บ้าง” คุณกำลังตั้งคำถามเดียวกันกับ แบมบู – พัชรพล เด่นงามวศิน ในช่วงเวลาก่อนที่จะได้เข้ามาเรียนในสาขาการจัดการโรงแรมที่วิทยาลัยดุสิตธานี แบมบู ณ ตอนนั้น ไม่ได้มีความฝันในการเรียนโรงแรมแต่มีแพสชันในสายภาษา  

“แบมเรียนศิลป์ภาษาอังกฤษมา แบมชอบภาษาอังกฤษ อยากทำงานที่ต้องใช้ภาษาครับ” แบมบูกล่าว  

“ตอนแรกแบมอยากเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน (Air Steward) เพราะได้ใช้ภาษาแน่ ๆ เลยตั้งเป้าว่าจะเรียนธุรกิจการบิน แต่ว่าพอได้ไปมีโอกาสคุยกับเพื่อนของคุณแม่ที่เคยทำงานโรงแรมมาก่อน เขาแนะนำมาว่าถ้าเรียนโรงแรมเนี่ยจะสามารถไปทำงานได้กว้างกว่าเพราะเรียนพื้นฐานด้านการบริการ สามารถไปเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินได้เหมือนกันหรือจะเปลี่ยนไปทำโรงแรมหรือเรือสำราญต่อก็ได้ ถ้าเรียนเฉพาะทางด้านการบินก็จะมีสายงานที่ค่อนข้างจำกัด แบมเลยลองเปลี่ยนไปหาข้อมูลเกี่ยวกับที่เรียนในสาขาการโรงแรมดู เลยได้รู้จักกับวิทยาลัยดุสิตธานี ตอนแรกก็คิดนะว่าโรงแรมจะเรียนเฉพาะแค่เสิร์ฟไหม งานแม่บ้านไหม แต่พอมาดูคอร์สจริง ๆ แล้วมันเป็นหลักสูตร BBA เน้นบริหารธุรกิจ ไม่ใช่แค่ Operation แต่มี Management ด้วย ยิ่งไปอ่านรีวิวว่าทำงานโรงแรมมีรายได้เพิ่มจาก Service charge ด้วยเลยยิ่งสนใจมากขึ้น ก็เลยตัดสินใจลองเรียนที่นี่ดูเพราะอย่างน้อยที่นี่ก็เป็น BBA เพิ่มโอกาสให้เราเลือกในอนาคตได้ว่าเราอยากจะเพิ่มความลุ่มลึกเฉพาะทางด้านการโรงแรมหรือเพิ่มสกิลในการบริหาร ไม่ได้มีแค่สายอาชีพอย่างเดียวเหมือนที่อื่น ๆ” 

ก้าวแรกของแบมบูในการเข้าสู่สังคมนานาชาตินั้นเกิดขึ้นพร้อมกับประสบการณ์การฝึกงาน ณ โรงแรมที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในโรงแรมที่หรูที่สุดในกรุงเทพฯ 

“แบมได้ไปฝึกงานที่ The Athenee Hotel, a Luxury Collection Hotel, Bangkok ที่เคยเป็นโรงแรม Plaza Athenee มาก่อน เป็นแบรนด์ Distinctive Luxury ที่อยู่ในเครือของ Marriott ด้วยความที่โรงแรมตั้งอยู่ใกล้สถานทูต แขกส่วนใหญ่ที่มาก็จะเป็นนักธุรกิจและท่านทูต รวมถึงผู้จัดการทั่วไปที่นี่ คุณชู เหล่ง โก๊ะ (Choo Leng Goh) และเพื่อนร่วมงานอีกหลายคนเป็นต่างชาติ เลยทำให้แบมคุ้นชินกับบรรยากาศของความเป็นนานาชาติครับ ตอนแรกแบมลังเลว่าจะเลือกฝึกงานที่ไหนเพราะว่าที่วิทยาลัยฯ ให้นักศึกษาไปฝึกงานตั้งแต่ปี 2 ตอนนั้นแบมยังไม่ค่อยรู้จักโรงแรมมากเลยลิสต์รายชื่อโรงแรมออกมาประมาณ 4-5 ที่ว่าจะไปที่ไหนดี สุดท้ายก็มาเลือกที่นี่เพราะอยากเลือก (หัวเราะ) แบมได้ไปฝึก 2 แผนก คือ Front office กับ Food & Beverage ที่ห้องอาหารฝรั่งเศส The Allium Bangkok ครับ แบมถือว่าได้เปรียบกว่าเพื่อนมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เพราะแบมเคยคุยกับเพื่อนที่มาฝึกงานด้วยกันแล้วเขาบอกว่าได้ฝึกงานแค่ครั้งเดียว แผนกเดียว เลยทำให้บางทีพวกเขายังไม่เจอทางที่สนใจจริง ๆ แต่ที่วิทยาลัยดุสิตธานีให้นักศึกษาฝึกงานมากกว่า 1 ครั้งและได้สลับแผนก ทำให้แบมได้ลองทำงานที่หลากหลายและมองเห็นตัวเองได้ชัดเจนขึ้นครับ”  

ที่นี่ แบมบูได้ฝึกการให้บริการระดับสูง พร้อมกับเกร็ดความรู้และการลงมือทำที่พิเศษกว่าที่อื่น ๆ 

“ตอนที่แบมฝึกอยู่ The Allium Bangkok แบมได้เรียนรู้เยอะเลยว่า Full operation ของการรับแขกเป็นอย่างไรบ้าง ตั้งแต่การรับจองคิว ต้อนรับ นำทางไปที่โต๊ะ การดูแลเทคแคร์แขก การคลี่ผ้ากันเปื้อน การสอบถามเมนู การรินน้ำ เสิร์ฟไวน์ เสิร์ฟอาหาร แนะนำเมนู ไปจนถึงการกระตุ้นยอดขายและคิดเงิน ทุกขั้นตอนมีแบบแผนทั้งหมดเลยครับ แบมเลยค้นพบว่าแบมชอบงานเซลล์ ชอบเข้าไปคุยกับแขกและกระตุ้นยอดขาย แบมกับพี่ ๆ เคยอัปเซลล์ได้จนยอดขึ้นเป็นหลักแสนด้วยครับ แบมรู้สึกโชคดีมากที่พี่ ๆ ที่นี่เขาสอนทุกอย่าง รวมถึงให้แบมได้ลองทำอะไรหลายๆอย่าง เช่น ทำ content ลง social media ของห้องอาหาร พี่ ๆ ฝ่าย Marketing Communication ของที่นี่เขาเห็นแบมชอบถ่ายรูป เขาก็เลยให้แบมถือบัญชี social media ของร้านอาหาร ให้ได้ลองคิดและโพสต์ content ด้วย ขอบคุณพี่ ๆ ที่ให้โอกาสกับแบมนะครับ”

ด้วยประสบการณ์นี้เองทำให้แบมบูเป็นผู้สมัครที่โดดเด่นเมื่อการประชุม APEC ประกาศรับสมัคร laiason เพื่อมาดูแลผู้นำจากนานาประเทศ 

“วันนั้น อ.เจเจ (อ.จงจิตร์ จันทร์แจ่ม ผู้จัดการหลักสูตรและอาจารย์ประจำหลักสูตรการจัดการโรงแรม วิทยาลัยดุสิตธานี) ส่งข้อมูลการเปิดรับสมัครของงานนี้มาให้ในไลน์ครับ แต่ว่าช่วงเวลาที่เขาจัดงานตรงกับสัปดาห์ก่อนสอบและต้องไปติดกัน 4 วัน แบมก็เลยตัดสินใจว่าจะไม่ไป แต่ อ.อ๊อด (อ.ทศพร สุขะ ผู้อำนวยการหลักสูตรและอาจารย์ประจำหลักสูตรการจัดการโรงแรม วิทยาลัยดุสิตธานี) โทรมาบอกว่าโอกาสนี้เป็นโอกาสที่ดีนะ สามารถทำเรื่องลาไปได้ แบมเลยลองสมัครไปดู ปรากฏว่าวันสัมภาษณ์ตรงกับวันที่แบมไม่มีสอบมิดเทอมพอดี โชคดีมากเพราะคนที่ไม่ว่างไปสัมภาษณ์เขาก็ตัดออกเลย แบมก็ทำการบ้านเกี่ยวกับ liaison ไปก่อนว่าคืออะไร มันเป็นงานเกี่ยวกับการประสานงาน คอยช่วยเหลือแขกที่มาในกิจกรรมนั้น ๆ ซึ่งเหมาะกับ background ของเราพอดี ตอนไปสัมภาษณ์ก็ไม่รู้จักใครในนั้นเลยเพราะแบมไปคนเดียว ตอนนั้นรู้สึกเครียดมากเหมือนกันเพราะแบมก็อยากได้งานนี้ แต่เขาจะรับแค่ 25 คนจากผู้สมัคร 100 กว่าคน แล้วแต่ละคนพูดภาษาที่ 3 ได้แบบ native บางคนพูดได้ 6 ภาษา แต่แบมได้แค่ 2 ภาษา ไทยกับอังกฤษ ตอนสัมภาษณ์ก็น่ากลัวมาก (หัวเราะ) เพราะว่าเป็นการสัมภาษณ์แบบ 1 ต่อ 1 กับ ผอ. ของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่ดูแลงาน APEC และ ABAC (APEC Business Advisory Council) พอดี เขาก็ถามว่าเรามีประสบการณ์อะไรบ้าง มีความสามารถอะไรบ้าง ทำไมถึงอยากเป็น liaison แบมก็เล่าว่าเคยทำอะไรมาบ้างแล้วก็นำเสนอว่าแบมอยากที่จะเป็นตัวแทนของ Thai Hospitality ในการดูแลผู้นำจากต่างประเทศ เพราะว่าฝึกงานมา เรียน Hotel Management จากวิทยาลัยดุสิตธานีมา ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในการนำความเป็นไทยไปสู่สายตาชาวโลกอยู่แล้ว เลยอยากให้ท่านผู้นำได้ประสบการณ์ที่เป็นพิเศษในแบบฉบับไทย หลังจากวันสัมภาษณ์ แบมก็ได้รับโทรศัพท์จากทีมจัดงาน ABAC ว่าแบมได้รับเลือก แบมรู้สึกดีใจมาก ๆ เลย คิดว่าเขาเลือกเราเพราะส่วนหนึ่งแบมเคยฝึกงานที่ The Athenee Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมที่รองรับท่านผู้นำพอดี แบมคุ้นเคยกับที่นี่ และแบมก็สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี เลยได้ไปช่วยดูแลตัวแทนจากประเทศฟิลิปปินส์ และเป็น support ระหว่างโรงแรม ABAC secretariat ABAC Thailand และสมาชิกที่มาร่วมประชุมทุกท่านครับ” 

จากจุดเริ่มต้นของการชอบภาษาสู่โอกาสในการไปสู่ระดับนานาชาติ ส่วนหนึ่งที่ทำให้แบมบูได้มาถึงความสำเร็จนี้เพราะสิ่งที่วิทยาลัยดุสิตธานีมอบให้ 

“แบมได้รับคำชื่นชมจากทั้งตัวแทนสมาชิกและจากทีมงานครับ เพราะแบมเข้าไปถาม เข้าไปชวนคุย escort แขกด้วย service mind ซึ่งเป็นสิ่งที่วิทยาลัยฯ สอนตั้งแต่ตอนที่เข้ามาแล้วว่าการเป็นคนในอุตสาหกรรมการบริการคือต้องใส่ใจคน ช่างสังเกต ตามปรัชญา care commit can-do ความรู้ของสาขาโรงแรมแบมก็ได้เอาไปใช้เยอะ ทั้งทักษะการจัดการ การทำลิสต์รายชื่อเป็นระเบียบมาตรฐานสากล ความสามารถของงานโรงแรมสามารถประยุกต์ได้กับทุกแง่มุมของงานบริการ อีกเรื่องหนึ่งคือการ grooming เพราะที่นี่สอนการดูแลลุคของตัวเองให้เป็นทางการและมืออาชีพ รวมถึงบุคลิกและ mindset ด้วย นอกจากนั้น วิทยาลัยดุสิตธานีก็ยังให้โอกาสแบมหลายอย่างมากในระดับอินเตอร์ ตั้งแต่ตอนปี 1 ที่ได้ขึ้นไปกล่าวสุนทรพจน์บนเวที Thailand Tourism Forum มีแขกผู้ร่วมงานที่ประทับใจและชมเราใน LinkedIn แบมก็ปลื้มใจ ไปจนถึงงาน South East Asia Hotel Investors’ Summit ที่แบมไปในฐานะ staff รู้สึกดีมาก ๆ ที่ได้ทำกิจกรรมในระดับอินเตอร์ ด้วยความที่อาจารย์ที่วิทยาลัยฯ ก็มีคอนเนกชั่นเยอะด้วยเลยทำให้เราเข้าถึงโอกาสที่มากและหลากหลาย ทำให้เราได้สั่งสมประสบการณ์มากมาย และได้ฝึกงานในที่ดี ๆ” 

จากประสบการณ์นานาชาติที่หลากหลายทำให้เป้าหมายของแบมบูในก้าวต่อไปนั้นชัดเจนขึ้น  

“เป้าหมายของแบมเปลี่ยนจากพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินมาเป็นสายเซลล์ของโรงแรมครับ ใน 10-15 ปีหลังเรียนจบ แบมอยากมีโอกาสเป็น Director of Sales และใน 25 ปี อยากเป็นผู้จัดการทั่วไปของ Luxury Hotel สักที่หนึ่ง สิ่งที่น่าหลงใหลของอุตสาหกรรมโรงแรมคือโอกาสในการสร้างประสบการณ์ที่พิเศษให้แก่แขกจากทั่วทุกมุมโลกที่เดินทางมาที่โรงแรมเพื่อรับประสบการณ์ควบคู่กับวัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ และนั่นเป็นเสน่ห์ของงานในอุตสาหกรรมนี้ที่มากกว่าแค่ค่าตอบแทนครับ ที่แบมมองเห็นเป้าหมายของตัวเองชัดเกิดมาจากว่าแบมไปฝึกงานและได้ไปลองหลายส่วน แบมเลยได้รู้ว่า culture ของการทำงานในวงการนี้เป็นยังไง ต้องมีประสบการณ์ ไม่อยู่กับที่ active ตลอด ได้เห็น career path ของแต่ละคนว่ามาจากไหนกัน จะขึ้นไปสู่ตำแหน่งต่าง ๆ ได้ยังไง คุณชู เหล่ง โก๊ะ (Choo Leng Goh) ผู้จัดการทั่วไปของ The Athenee Hotel เป็นคนที่เก่งและเป็นแรงบันดาลใจของแบม คุณชูเคยเล่าให้ฟังถึงการผจญภัยของเธอจากการเริ่มทำงานในโรงแรมในฐานะ Sales Coordinator จนกลายมาเป็น General Manager ให้กับหนึ่งในโรงแรม 5 ดาวที่มีชื่อเสียงที่สุดในเอเชีย แบมชอบการทำงานของเธอที่จะมุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน แบมชอบการทำงานแบบนี้เลยนำเธอเป็นแบบอย่าง และเส้นทางที่เห็นก็เป็นแรงบันดาลใจที่ดีและคิดว่าไม่ไกลเกินเอื้อมของแบมจริง ๆ” 

สำหรับใครที่ต้องการวางเป้าหมายให้กับชีวิตของตัวเอง แบมบูมีข้อเสนอแนะเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด 

“แบมแนะนำให้พยายามดูตัวอย่างจากคนในอุตสาหกรรมในตำแหน่งที่เราอยากเป็นครับว่าแต่ละคนที่เขาไปถึงจุดนั้น เขาผ่านอะไรมาบ้าง แล้วเราเอามาวางแผนเส้นทางของตัวเองว่าต้องไปทำอะไรกี่ปีถึงจะได้เลื่อนขั้น ขึ้นไปตำแหน่งไหนต่อ การที่มีเป้าหมายชัดนั้นเป็นเรื่องดีนะครับแต่ไม่อยากให้เครียดเกินไป แค่วางให้มีเป้าหมาย เราจะได้เห็นว่าขั้นถัดไปต้องทำอะไรต่อ ดีกว่าที่เราเข้าไปทำงานเฉย ๆ แล้วไม่ได้มีเป้าหมายอะไรที่อยากจะได้กลับมา” 

จะเห็นได้ว่าสาขาวิชาการจัดการโรงแรมนั้นไม่ได้โฟกัสที่ทักษะการบริการจัดการโรงแรมหรือทักษะปฏิบัติการเท่านั้น แต่มุ่งเน้นไปที่จิตบริการและการสร้างความประทับใจให้ลูกค้าเพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด ซึ่งสามารถต่อยอดสู่ความสำเร็จได้ในหลากหลายเส้นทางตามที่แต่ละคนต้องการ

DTC Talk

สอบถามเพิ่มเติม

สำนักประชาสัมพันธ์

โทร: 02 721 7811–3 อีเมล: pr.pr@dtc.ac.th

ข่าวอื่น ๆ

02 ธันวาคม 2025

วิทยาลัยดุสิตธานีจัดกิจกรรม “Heart and Value” สร้างสัมพันธ์ชุมชนกับโรงเรียนแก่นทองอุปถัมภ์ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 วิทยาลัยดุสิตธานี นำโดยฝ่ายทรัพยากรบุคคล พร้อมคณาจารย์และนักศึกษา จัดกิจกรรม “Heart and Value” ณ โรงเรียนแก่นทองอุปถัมภ์ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ในชุมชนและมอบความรู้ที่สามารถต่อยอดเป็นอาชีพได้ โดยมีการสาธิตการทำโมจิครีมชีส การทำเครื่องดื่ม Signature Drink การจัดดอกไม้และเทคนิคการจับจีบผ้า รวมถึงกิจกรรมปรับภูมิทัศน์โรงเรียนร่วมกับนักเรียน กิจกรรมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารวิทยาลัยและโรงเรียนแก่นทองอุปถัมภ์ พร้อมบรรยากาศที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความสนุกสนาน และสาระที่เป็นประโยชน์ สมดังชื่องาน “Heart and Value” ที่มุ่งสร้างคุณค่าและความผูกพันในชุมชน

01 ธันวาคม 2025

วิทยาลัยดุสิตธานีจัดงาน Energy Saving Day 2568 ตอกย้ำความตระหนักรู้ด้านการอนุรักษ์พลังงาน เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 วิทยาลัยดุสิตธานีจัดงาน “Energy Saving Day” ประจำปี เพื่อสร้างและตอกย้ำความสำคัญของการอนุรักษ์พลังงาน ภายใต้แนวคิด “ลดลงแน่ถ้าเพิ่มแค่ 1” โดยรณรงค์ให้นักศึกษาและบุคลากรปรับอุณหภูมิห้องขึ้น 1 องศาเซลเซียส เพื่อลดการใช้พลังงาน พร้อมกิจกรรมอบรมและสาธิตที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการประหยัดพลังงาน การคัดแยกขยะ และการทำปุ๋ยจากเศษอาหาร กิจกรรมนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของวิทยาลัยในการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะด้านพลังงาน เพื่อร่วมกันรักษาโลกให้น่าอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน

สอบถามเพิ่มเติม

สำนักประชาสัมพันธ์

โทร: 02 721 7811–3 อีเมล: pr.pr@dtc.ac.th