Hi

ภาษา “ปึแหลกๆ” กับพี่จองน้องคัลแลน

21 มีนาคม 2024

เรื่องโดย อาจารย์นิศา บูรณภวังค์ อาจารย์ประจำสังกัดศูนย์ภาษา วิทยาลัยดุสิตธานี 

ที่มา: The Bangkok Insight (www.thebangkokinsight.com) 

ภาพ: เฟซบุ๊กเพจ คัลแลน Cullen Hateberry

——————————————————————————

ณ ช่วงเวลานี้ คงไม่มีใครฮอตเท่าพี่จองกับน้องคัลแลนที่มีทั้งด้อมวัยเรียน ด้อมวัยทำงานไล่เรื่อยไปถึงด้อมวัยเกษียณอีกแล้ว อะไรที่เป็นแรงดึงดูดให้พวกเราตกหลุมรักสองหนุ่มยูทูเบอร์สายท่องเที่ยวไทยชาวเกาหลี ถึงขั้นทำให้เราติดตามดูคลิปของพี่จองกับน้องคัลแลนกันข้ามวันข้ามคืน เป็นเพราะรูปร่าง หน้าตา หรือภาษาที่ใช้? …งั้นเราลองมาวิเคราะห์ในเชิงภาษาไทยกันดีกว่านะคะ

คัลแลน หรือ พัคกีดึก (Park Ki Deuk) มาเปิดกิจการร้านกินดื่มร่วมกับเพื่อนที่ประเทศไทย คัลแลนเรียนภาษาไทยเพิ่มเติม เพื่อต่อยอดเป็น ‘ยูทูเบอร์สายท่องเที่ยว’ ส่วนพี่จองเป็นนักธุรกิจชาวเกาหลี ที่หลงรักอาหารและวัฒนธรรมของประเทศไทย คัลแลนชักชวนพี่จองให้มาทำวิดีโอท่องเที่ยวด้วยกัน ที่น่าตกใจคือ พี่จองเคยเรียนภาษาไทยแค่ 2 ครั้ง (โหววว….) เสน่ห์ของ“พี่จอง” และ “คัลแลน” ที่โดดเด่นพุ่งทะยานออกมาในทุกๆ คลิป ก็มาจากการพูดภาษาไทยที่ไม่ถูกแต่น่ารักนั่นเอง

ถ้ามองในมุมของการสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ ความพลาดของการพูดภาษาไทยน่าจะมาจากเรื่องวรรณยุกต์ค่ะเพราะภาษาไทยเป็นภาษาที่มีวรรณยุกต์ (Tonal Language) หรือใช้ระดับเสียงสูง-ต่ำ ในการกำหนดความหมายของคำ พูดง่ายๆ คือ ถ้าวรรณยุกต์ผิดชีวิตจะเปลี่ยนไปทันที (555++) ลักษณะแบบนี้เป็นลักษณะของภาษาตระกูลซิโน-ไท (Sino-Tai) ซึ่งพบได้ในภาษาจีนและภาษาในแถบโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วลี “จริงๆ อันหนี่……..” ของสองหนุ่มที่มีโทนเสียงแปร่ง ๆ จึงกลายเป็นสิ่งน่าเอ็นดูและมัดใจคนไทยไปมากกว่าครึ่ง นอกจากโทนเสียง เรื่องของ‘คำที่เหมือนจะไม่มีความหมายแต่ก็มีความหมาย’ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ ชาวต่างชาติต้องงงเป็นไก่ตาแตก เพราะคำพวกนี้ไม่มีสอนในตำรา และแถมยังปรากฏอยู่ในบทสนทนาเสมอ เช่น แบ่บ แหละ เนี่ยะ อ่ะ ล่ะ ฯลฯ

อันดับต่อมาคือเรื่องของการเรียงประโยค …แน่นอนค่ะ การเรียงประโยคภาษาไทยจะเรียงแบบเดียวกับภาษาอังกฤษหรือภาษาจีน คือ ประธาน / กริยา / กรรม เช่น ‘ฉันดื่มกาแฟ’ แต่จะต่างกับบางภาษาซึ่งพูดแบบ ประธาน / กรรม / กริยา เช่น ภาษาญี่ปุ่น หรือ ภาษาเกาหลี ดังนั้น ประโยคนี้ชาวต่างชาติจึงมักจะพูดเป็น ‘ฉันกาแฟดื่ม’ ในที่นี้ ผู้เขียนขอนับรวมไปถึงคำขยายต่างๆ ด้วยนะคะ กล่าวคือในภาษาไทย เรามักจะพูดคำหลักก่อน แล้วจึงตามด้วยคำขยายหรือคำเสริม เช่น กาแฟร้อน แต่ในภาษาอังกฤษ ญี่ปุ่น จีน หรือเกาหลี เขาจะพูดคำขยาย ‘ร้อน’ ก่อนแล้วจึงจะพูดคำหลัก ‘กาแฟ’ พอพูดถึงคำขยาย ก็ทำให้นึกขึ้นมาได้ว่าเรามีคำขยายหลายคำมาก และบางคำก็ใช้เฉพาะกับบางสิ่งอีก ชาวต่างชาติก็จะสับสน เช่น คำว่าผู้หญิงใช้กับคน ตัวเมียใช้กับสัตว์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะได้ยินคัลแลนพูดว่า ‘ที่นี่มี Deer ผู้หญิงด้วย’!!! ประการสุดท้าย ภาษาไทยมีคำสแลงเกิดขึ้นใหม่ๆ ตลอดเวลา จึงค่อนข้างลำบากที่ชาวต่างชาติจะเข้าใจและตามให้ทันกับการสร้างคำใหม่ที่รวดเร็ว แต่ทั้งพี่จองและคัลแลนก็สามารถก้าวข้ามปัญหานี้ไปได้เป็นอย่างดี เห็นได้จากการใช้คำว่า ‘ใจฟู’ได้ถูกต้องเหมาะกับสถานการณ์ จนติดหูผู้ชมและนำมาใช้กันอย่างเอกเกริก

อาจพูดได้ว่าทั้งสองเป็นตัวแทนของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะคนเกาหลี ที่มาเที่ยวในไทยแบบธรรมดาตามประสาวัยหนุ่มสาว แสวงหาประสบการณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว วัฒนธรรม การดำเนินชีวิต รวมไปถึงการฝึกพูดภาษาไทย ที่ชาวต่างชาติส่วนใหญ่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘ภาษาไทยยาก’ แต่คัลแลนกับพี่จองกลับแสดงให้เห็นว่าภาษาไทยพูดง่ายกว่าที่คิด และยังมีอะไรสนุก ๆ รอให้ได้เรียนรู้อีกมากมาย ถ้าคนพูดจับจุดได้ มีความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะสื่อสาร และกล้าที่จะพูดออกมา

ผู้อ่านอาจสงสัยว่า ทำไมผู้เขียนซึ่งเป็นอาจารย์ประจำสังกัดศูนย์ภาษา วิทยาลัยดุสิตธานี จึงหยิบยกเรื่องภาษามาเขียน ทั้งๆ ที่มันดูไม่เกี่ยวกับวิทยาลัยเลย แต่อันที่จริงแล้ววิทยาลัยดุสิตธานีที่สอนด้านการบริการโดยตรงเล็งเห็นว่า ภาษามีความสำคัญมากต่อการทำงานบริการที่จำเป็นต้องใช้การสื่อสารเป็นหลัก ดังนั้นไม่เพียงแค่เราควรจะใช้ภาษาของเราและภาษาต่างประเทศได้อย่างถูกต้องแล้ว การเข้าใจภาษาพูดของฝั่งตรงข้ามก็สำคัญ เพราะการเข้าใจธรรมชาติการใช้ภาษาของชาวต่างชาติจะช่วยทำให้การทำงานราบรื่นขึ้นและช่วยสร้างสัมพันธภาพกับลูกค้าได้ดีขึ้นด้วย

และเพราะความเข้าใจดังกล่าวนี้เอง ผู้เขียนจึงสรุปเอาเองว่ายูทูเบอร์ทั้งสองน่าจะครองใจเราคนไทยไปอีกนาน ตราบเท่าที่พวกเขายังมีความสนใจในเรื่อง ความเป็นไทย มีความสุขกับการฝึกพูดภาษาไทย สนุกกับการพยายามรังสรรค์คำไทยน่าเอ็นดูใหม่ๆ และปึแหลกๆ (แปลกๆ) เช่น ปากพัง จมูกกินน้ำ ไก่ร้องไห้ หรือบุดด้าเด็ก ขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะมันมีผลทำให้คนเฝ้ารอชมคลิปอย่างเราๆ ได้รับทั้งรอยยิ้มและพลังบวกไปด้วยในคราวเดียวกัน

บทความ

สอบถามเพิ่มเติม

สำนักประชาสัมพันธ์

โทร: 02 721 7811–3 อีเมล: pr.pr@dtc.ac.th

ข่าวอื่น ๆ

สอบถามเพิ่มเติม

สำนักประชาสัมพันธ์

โทร: 02 721 7811–3 อีเมล: pr.pr@dtc.ac.th

ยินดีต้อนรับสู่วิทยาลัยดุสิตธานี​
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ของวิทยาลัยได้ คลิก!

คุณได้เพิ่มคอร์สเรียนแล้ว