“ก่อนจะเป็นอาจารย์ก็เคยผ่านทุกอย่างมาก่อน” อาจารย์วีร์ – วีร์ วงศ์สันติวนิช ถ่ายทอดประสบการณ์สายอาหาร 14 ปีทั้งในและต่างประเทศผ่านหนังสือ ‘A chef’s journey’

29 กันยายน 2023

หากพูดถึงหนังสือที่เชฟเป็นผู้เขียน ทุกคนมักจะนึกถึงหนังสือตำราอาหาร หนังสือประวัติศาสตร์อาหาร หรือหนังสือแนะนำเทคนิคในการทำอาหาร แต่ ‘A chef’s journey’ หนังสือขนาดพกพาหนาเกือบ 200 หน้าที่ อาจารย์วีร์ – วีร์ วงศ์สันติวนิช อาจารย์ประจำกลุ่มวิชาอาหารตะวันตก วิทยาลัยดุสิตธานี เป็นผู้เขียนขึ้นนี้ได้ฉีกรูปแบบหนังสือเชฟออกไปได้อย่างน่าสนใจ เพราะว่าน้อยครั้งนักที่จะพบหนังสือแนะนำการทำงานและประสบการณ์ในสายอาหารโดยผู้ที่มีประสบการณ์ตรง 

“ผมเสียดายครับถ้ามันจะเป็นแค่ความทรงจำของผมคนเดียว” อาจารย์วีร์กล่าว 

“ผมเองก็ไม่ใช่ว่าเก่งอะไร แต่ด้วยความที่ประสบการณ์การทำงานของผมใน 5 ประเทศจาก 3 ทวีปมันหายาก ผมเชื่อว่ามันจะมีค่าต่อคนรุ่นหลัง และผมไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้มันแก่และหายไปพร้อมกับตัวผม ผมเลยอยากถ่ายทอดมันออกมาครับ โดยที่ผมเลือกถ่ายทอดสิ่งที่เป็นความประทับใจของผมในแต่ละช่วงชีวิตออกมา พร้อมสอดแทรกความรู้ลงไปครับ” 

เชื่อว่าเป็นเรื่องยากสำหรับทุกคนที่จะถอดบทเรียนจากประสบการณ์ 14 ปีอันแสนเข้มข้นใน 5 ประเทศ 3 ทวีป จากทุกบทบาทที่เคยทำ ตั้งแต่ระดับปฏิบัติการไปจนถึงระดับบริหาร ให้กลายเป็นตัวอักษรเพียงแค่ไม่เกิน 200 หน้า นั่นจึงทำให้การเดินทางของ ‘A chef’s journey’ ใช้เวลามากถึง 10 ปี

“ผมเริ่มเขียนเกี่ยวกับประสบการณ์ของตัวเองตั้งแต่ก่อนมาเป็นอาจารย์ที่วิทยาลัยดุสิตธานีครับ ช่วงนั้นเป็น Gap Year ที่ผมพักจากการทำงาน ผมเลยได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งเป็นแรงบันดาลใจและทำให้ผมอยากถ่ายทอดสิ่งที่ผมรู้และผ่านมาในชีวิตไปให้เด็ก ๆ ที่สนใจสายงานเกี่ยวกับอาหารครับ ช่วงแรก ๆ ผมเขียนเป็นแค่บทความก่อนแต่ก็เริ่มรู้สึกว่าไหน ๆ จะเขียนแล้วก็ทำเป็นหนังสือไปเลยก็แล้วกัน พอได้เริ่มงานเป็นอาจารย์์ที่วิทยาลัยดุสิตธานีเท่านั้นแหละ ผมก็มีเวลาในการเขียนและเรียบเรียงหนังสือเล่มนี้น้อยลง ในทางกลับกัน ผมกลับมีเนื้อหาที่อยากเขียนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ด้วยความที่ผมอยากให้น้อง ๆ ที่ยังไม่ขึ้นระดับอุดมศึกษาและสนใจที่จะเรียนต่อด้านอาหารได้ทำความรู้จักกับวงการนี้จริง ๆ ก่อนตัดสินใจเลือกเรียนเพื่อเป็นอาชีพ ผมจึงพยายามดึงเรื่องราวและความรู้ที่ใช้ในการทำงานจริง กลั่นจากประสบการณ์จริงของผมมาเล่าตามลำดับเวลา รวมถึงผมพยายามดึงแง่มุมที่หลากหลายตั้งแต่ตอนที่ผมเป็นเชฟลูกมือไปจนถึงเป็นระดับผู้บริหารมาเผยให้ได้เห็นว่าเส้นทางของการเรียนสายอาหารสามารถไปทางไหนได้บ้าง มีอะไรที่มากกว่าการลงมือทำอาหารบ้าง สิ่งใดที่เราจำเป็นต้องมีเพื่อให้ประสบความสำเร็จในอนาคต เรียกได้ว่าการได้ทำงานที่นี่ทำให้ผมหาตอนจบของหนังสือเจอครับ” 

หนึ่งในสิ่งที่อาจารย์วีร์ได้กลั่นกรองและบรรจุลงในบทสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้ก็คือคุณสมบัติพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับเชฟทุกคน ซึ่งสิ่งแรกที่อาจารย์วีร์ได้ระบุไว้ก็คือ “อดทน แข็งแกร่ง” 

“งานเชฟเป็นงานที่หนัก มีชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานในที่ร้อน ๆ ต้องยกของหนัก ต้องจับของร้อน ต้องยืนทำงานในท่าเดิมเป็นเวลานาน กินอาหารก็ไม่ได้ตรงตามเวลาเหมือนคนทั่วไป บางครั้งก็เลิกงานดึก ๆ ดื่น ๆ หนักเข้าหน่อยก็ลากยาวไปจนถึงเช้า นี่ยังไม่รวมความกดดันในการทำงานที่จะมีเข้ามาอีก การจะฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านี้ไปจนประสบความสำเร็จได้ก็จำเป็นต้องมีร่างกายที่แข็งแรงอยู่คู่กับจิตใจที่แข็งแกร่งครับ”

จากนักเรียนเชฟรุ่นแรกของวิทยาลัยดุสิตธานีมาสู่อาจารย์ผู้สอนเชฟในปัจจุบัน อาจารย์วีร์ได้คลุกคลีอยู่ในวงการอาหารทั้งทางตรงและทางอ้อมโดยตลอด หลายคนอาจจะคิดว่าเขาเลือกเดินออกจากการเป็นผู้ทำสู่การเป็นผู้ถ่ายทอดเพราะแพสชันของเขานั้นอิ่มตัวแล้ว แต่เชื่อหรือไม่ว่าต้นทางอาชีพเชฟของอาจารย์วีร์ไม่ได้เริ่มต้นที่แพสชัน และกลับกลายเป็นว่ามาค้นพบแพสชัน ณ ปลายทางของอาชีพเชฟของเขาต่างหาก 

“ตอนนี้ผมไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นเชฟแล้วนะครับ เพราะสำหรับผมแล้ว เชฟคือคนที่ทำอาหารให้ลูกค้าได้กิน แต่ทุกวันนี้ผมทำอาหารเพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้ ผมจึงมองว่าตัวเองเป็นครูครับ ตอนที่ผมเลือกเรียนต่อ อาชีพเชฟไม่ใช่อาชีพที่ผมรู้จักด้วยซ้ำ แต่มีผู้ใหญ่บอกว่าเรียนหลักสูตรบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการครัวและภัตตาคาร ที่วิทยาลัยดุสิตธานีจบไปมีงานทำแน่นอน ด้วยความที่ผมสอบเอ็นทรานส์ไม่ติดและอยากเรียนเกี่ยวกับบริหารในสาขาที่แปลกกว่าคนอื่นในยุคผม เลยทำให้ผมมาถึงตรงนี้ได้ ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้เป็นคนที่มีแพสชันในการทำอาหารมากขนาดนั้น ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการทำอาหารที่ผมได้ร่ำเรียนจากที่นี่และความชอบเรื่องการบริหารที่มารวมกัน ทำให้เกิดเป็นอาชีพและโอกาสที่นำพาผมไปในที่ต่าง ๆ ทั่วโลก แต่ตอนนี้แพสชันของผมอยู่ที่การถ่ายทอดความรู้ทางวิชาการครับ ผมชอบอาชีพนี้ที่สุดเท่าที่ผมเคยทำมาเลย ผมรู้สึกว่าผมมีความสุข มันถูกจริตของเรามากกว่า ทุกวันนี้ผมสอนทั้งครัวและสอนวิชาบริหารไปด้วย เพื่อเตรียมให้นักศึกษาพร้อมสำหรับการเป็นเชฟในอุตสาหกรรมบริการหรือเป็นผู้ประกอบการต่อไป วงการอาหารคือความชำนาญ แพสชันคือการถ่ายทอด เมื่อความชำนาญและความชอบมาประสานกัน นั่นคือความสุขในการดำรงชีวิตของผมครับ”

‘A chef’s journey’ ก็เป็นอีกหนึ่งความสุขที่อาจารย์วีร์ไม่เคยลดละความพยายามในการทำ ไม่ว่าจะใช้ระยะเวลาและสรรพกำลังไปมากแค่ไหน ด้วยความเชื่อว่า “หนังสือสามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้” 

“มีหนังสือหลายเล่มที่เปลี่ยนชีวิตคนได้ครับ ผมเชื่อว่าถ้ามีเด็ก ๆ ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ บางคนอาจจะรู้สึกถูกใจมากและอยากเดินทางสายครัวด้วย บางคนก็อาจจะรู้สึกว่าไม่เหมือนกับที่คิดไว้เลยและมองเห็นว่างานครัวเหมาะกับตัวเองมากกว่าถ้าเป็นงานอดิเรก หรือบางคนที่ไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับงานครัวมากนักก็จะได้เห็นภาพของงานสายนี้มากขึ้น ทั้งหมดทั้งมวลแล้ว ต้องขอขอบคุณผู้ที่ร่วมทำให้หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ออกมาได้ ทั้งเจนนี่ (Zhanna Spitsyna) ลูกศิษย์ของผมที่ช่วยทำให้หนังสือมีภาพประกอบสวย ๆ ขอบคุณอาจารย์วีรา (อาจารย์วีรา พาสพัฒนพาณิชย์ อธิการบดีผู้ก่อตั้งวิทยาลัยดุสิตธานี) และอาจารย์ ดร.พิศาล (ดร.พิศาล สร้อยธุหร่ำ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมกิจการครัวไทย วิทยาลัยดุสิตธานี) ที่ช่วยรีวิวหนังสือเล่มนี้ให้กับผม รวมถึงพลอย (ดร.พลอยจรัส ประกัตฐโกมล ผู้จัดการแผนกกิจกรรมการแข่งขันการครัวและวิชาการ วิทยาลัยดุสิตธานี) อ.ปอนด์ (ดร.อรรถเวทย์ พฤกษ์สถาพร รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและกิจการคณาจารย์ วิทยาลัยดุสิตธานี) และโชคชะตา ที่ทำให้ผมได้พบกับสูตรสำเร็จของชีวิตที่มีความสุขของผมครับ” 

สำหรับ ‘A chef’s journey’ ก็เปรียบเสมือนมรดกอันล้ำค่าของอาจารย์วีร์ที่มอบไว้ให้กับรุ่นถัดไป โดยสามารถหาอ่านได้ที่ D Shop ณ วิทยาลัยดุสิตธานี และช่องทางอื่น ๆ ภายใต้นามปากกา V.A. Vong

DTC Talk

สอบถามเพิ่มเติม

สำนักประชาสัมพันธ์

โทร: 02 721 7811–3 อีเมล: pr.pr@dtc.ac.th

ข่าวอื่น ๆ

02 ธันวาคม 2025

วิทยาลัยดุสิตธานีจัดกิจกรรม “Heart and Value” สร้างสัมพันธ์ชุมชนกับโรงเรียนแก่นทองอุปถัมภ์ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 วิทยาลัยดุสิตธานี นำโดยฝ่ายทรัพยากรบุคคล พร้อมคณาจารย์และนักศึกษา จัดกิจกรรม “Heart and Value” ณ โรงเรียนแก่นทองอุปถัมภ์ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ในชุมชนและมอบความรู้ที่สามารถต่อยอดเป็นอาชีพได้ โดยมีการสาธิตการทำโมจิครีมชีส การทำเครื่องดื่ม Signature Drink การจัดดอกไม้และเทคนิคการจับจีบผ้า รวมถึงกิจกรรมปรับภูมิทัศน์โรงเรียนร่วมกับนักเรียน กิจกรรมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารวิทยาลัยและโรงเรียนแก่นทองอุปถัมภ์ พร้อมบรรยากาศที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความสนุกสนาน และสาระที่เป็นประโยชน์ สมดังชื่องาน “Heart and Value” ที่มุ่งสร้างคุณค่าและความผูกพันในชุมชน

01 ธันวาคม 2025

วิทยาลัยดุสิตธานีจัดงาน Energy Saving Day 2568 ตอกย้ำความตระหนักรู้ด้านการอนุรักษ์พลังงาน เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 วิทยาลัยดุสิตธานีจัดงาน “Energy Saving Day” ประจำปี เพื่อสร้างและตอกย้ำความสำคัญของการอนุรักษ์พลังงาน ภายใต้แนวคิด “ลดลงแน่ถ้าเพิ่มแค่ 1” โดยรณรงค์ให้นักศึกษาและบุคลากรปรับอุณหภูมิห้องขึ้น 1 องศาเซลเซียส เพื่อลดการใช้พลังงาน พร้อมกิจกรรมอบรมและสาธิตที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการประหยัดพลังงาน การคัดแยกขยะ และการทำปุ๋ยจากเศษอาหาร กิจกรรมนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของวิทยาลัยในการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะด้านพลังงาน เพื่อร่วมกันรักษาโลกให้น่าอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน

สอบถามเพิ่มเติม

สำนักประชาสัมพันธ์

โทร: 02 721 7811–3 อีเมล: pr.pr@dtc.ac.th