






เมื่อเร็วๆ นี้ วิทยาลัยดุสิตธานี สถาบันการศึกษาชั้นแนวหน้าด้านธุรกิจบริการในเครือโรงแรมดุสิตธานี ได้ร่วมกับ The Diplomat Network หน่วยงานที่เชี่ยวชาญด้านการดำเนินกิจกรรมระดับนานาชาติ การทูต และดูแลแขกระดับวีไอพีอย่างพิถีพิถันด้วยทักษะการบริการระดับสากล ได้จัดงานมอบประกาศนียบัตรให้แก่นักศึกษาวิทยาลัยดุสิตธานีที่มีโอกาสทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเชฟและผู้ให้การบริการในงานระดับโลก Dinner Incredible Thailand 2025 ซึ่งจัดขึ้น ณ โรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา
งาน Dinner Incredible Thailand 2025 นั้นเป็นมื้ออาหารค่ำสุดเอกซ์คลูซีพที่รวบรวม 15 เชฟระดับโลกที่ครองดาวมิชลินรวมกันถึง 21 ดวง มารังสรรค์อาหารสำรับพิเศษเสิร์ฟแขกวีไอพีจากทั่วโลก จัดขึ้นโดย The Diplomat Network โดยมีคุณพันธจักร ว่องปรีชา CEO & Founder แห่ง The Diplomat Network เจ้าของฉายา MrProtocol ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการฝึกอบรมนักศึกษาให้มีทักษะการบริการระดับสากล เป็นแกนนำผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของค่ำคืนดังกล่าว
สืบเนื่องจากการลงนามความร่วมมือทางวิชาการระหว่างวิทยาลัยดุสิตธานีและ The Diplomat Network เมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา ทาง The Diplomat Network จึงได้มอบโอกาสให้แก่นักศึกษาวิทยาลัยดุสิตธานีรวม 12 คนให้มีส่วนร่วมในงานค่ำคืนนั้นในฐานะผู้ช่วยเชฟและผู้ให้การบริการ ซึ่งนอกจากจะเป็นโอกาสที่หาไม่ได้ง่ายๆ ที่นักศึกษาจะได้ร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับเชฟระดับโลกแล้ว ยังเป็นการฝึกฝนนักศึกษาให้มีทักษะสากลด้านการประกอบอาหาร การดูแลแขกผู้ทรงเกียรติ และการทำงานร่วมกับเชฟชื่อดังและทีมงานระดับนานาชาติด้วย
ด้วยความประทับใจในทักษะและความสามารถของนักศึกษา คุณพันธกิจจึงได้มอบประกาศนียบัตรให้แก่นักศึกษาทุกคนที่ไปช่วยงานเพื่อแสดงความชื่นชมและขอบคุณ
“The Diplomat Network และวิทยาลัยดุสิตธานีได้ลงนามความร่วมมือกันมาตั้งแต่ปี 2567 ซึ่งมีผลผูกพันว่า เราทั้งสองฝ่ายต้องเกื้อกูลซึ่งกันและกัน” คุณพันธจักร ว่องปรีชา CEO & Founder แห่ง The Diplomat Network เจ้าของฉายา MrProtocol กล่าว “ดังเช่นครั้งนี้ที่เราได้มอบโอกาสในการฝึกฝนทักษะให้แก่นักศึกษา ขณะเดียวกันวิทยาลัยดุสิตธานีก็ให้การสนับสนุนนักศึกษามาช่วยงาน ซึ่งความสำเร็จของงานครั้งนี้ต้องใช้พลังอย่างมาก พร้อมกับต้องรับแรงกดดันมหาศาล แต่นักศึกษาที่มีความสามารถมากเหล่านี้มีส่วนอย่างยิ่งในการเปลี่ยนแรงกดดันหรือ pressure ให้เป็น pleasure หรือความพึงพอใจในท้ายที่สุด ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะปักหมุดตนเองให้เป็น Gastronomy Tourism อันสอดคล้องกับพันธกิจด้าน Hospitality ของวิทยาลัยดุสิตธานี ซึ่งนักศึกษาที่ร่วมงานในทุกตำแหน่งได้แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่า พวกเขาทำงานกันอย่างสุดความสามารถ จนสร้างความประทับใจให้กับแขกผู้เข้าร่วมงานตลอดจนทีมงานทุกคน”
ด้าน ดร.อรรถเวทย์ พฤกษ์สถาพร อธิการบดีวิทยาลัยดุสิตธานี ที่มาเป็นสักขีพยานในการมอบเกียรติบัตรได้กล่าวสมทบว่า การที่นักศึกษาได้ไปร่วมงานระดับโลกเช่นนี้นับเป็นประสบการณ์ที่ไม่อาจหาได้จากในห้องเรียน เพราะเป็นกิจกรรมที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน จึงอยากขอบคุณ The Diplomat Network ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาวิทยาลัยดุสิตธานีได้รู้จักการทำงานและได้รับประสบการณ์รูปแบบใหม่ๆ
คุณพันธจักรกล่าวทิ้งท้ายอีกว่า สิ่งที่ได้รับไม่ใช่เพียงแค่ “การต้อนรับและการบริการ” ที่งดงามในเชิงวิชาชีพ แต่คือ “การส่งต่อคุณค่าของวัตถุดิบไทย” ผ่านอาหาร บริการ และเรื่องราวที่ถ่ายทอดความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาไทยสู่สายตาโลก เพราะทุกจานอาหาร ทุกการต้อนรับ และทุกรอยยิ้ม คือการเล่าเรื่อง “ประเทศไทย” อย่างแท้จริง