Hi

“เปิดใจเชฟหล่อ” หลุยส์ – พุทธิพร ซอนเดอรส์ กับความฮอตที่มากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก

19 พฤษภาคม 2022

หากใครอยากเป็นเชฟและต้องการเรียนต่อด้านการประกอบอาหาร คงจะมีสถาบันการศึกษาเพียงไม่กี่ชื่อที่ผุดขึ้นมาในหัวเมื่อนึกถึง วิทยาลัยดุสิตธานีก็เป็นอีกที่หนึ่งที่ได้รับความนิยมจากชื่อเสียงระดับตำนานของโรงแรมดุสิตธานี ผู้ให้กำเนิดวิทยาลัยฯ และหากคุณได้ลองเข้ามาศึกษาข้อมูลในเว็บไซต์ www.dtc.ac.th หรือใน Facebook ของ Dusit Thani College สิ่งที่คุณจะได้เห็นเป็นสิ่งแรก ๆ ในนั้นคือรูปของ หลุยส์ – พุทธิพร ซอนเดอรส์ ที่ยิ้มต้อนรับให้ทุกคนเข้ามาทำความรู้จักกับวิทยาลัย วันนี้ พวกเราจึงขอพาให้ทุกคนมาทำความรู้จักกับหลุยส์กันว่านอกจากรอยยิ้มที่สดใสแล้ว เขามีเสน่ห์อะไรที่ซ่อนอยู่อีกบ้าง 

เด็กหนุ่มลูกครึ่งไทย-อังกฤษคนนี้เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาการจัดการครัวและศิลปะการประกอบอาหาร ที่เดินทางจากบ้านเกิดที่นครศรีธรรมราช มาเพื่อสร้างฝันและอนาคตในกรุงเทพฯ  

“ผมเป็นคนสัญชาติไทย 100% ครับ อาจจะดูไม่ออกใช่ไหมครับว่าเป็นคนใต้ (ฮา) ผมเกิดที่โรงพยาบาลสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานีครับ เรียนจบจากโรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช คุณพ่อเป็นชาวอังกฤษ คุณแม่เป็นชาวไทยครับ” 

เห็นทั้งหน้าตาและเชื้อชาติที่เป็นลูกครึ่งแบบนี้ แต่ภาษาอังกฤษก็เป็นเรื่องใหม่สำหรับเขา 

“จริง ๆ ผมเพิ่งเริ่มได้ภาษาช่วงนี้เองครับ คุณพ่อคุณแม่แยกทางกันแล้วคุณพ่อกลับไปทำงานที่อังกฤษ ผมโตมากับคุณแม่เลยไม่ค่อยได้เรียนรู้ภาษา มีช่วงหลัง ๆ ที่คุณพ่อติดต่อมาถึงได้เริ่มมีคุยอะไรกันเป็นภาษาอังกฤษบ้าง เลยทำให้ตอนนี้โดยรวมพอสื่อสารได้ครับ ที่จริงผมมีแพลนไปหาคุณพ่อที่อังกฤษช่วงก่อนหน้านี้ด้วย พอเจอโควิดเลยต้องเบรคไว้ยาวมากเลยครับ” 

อันที่จริง ความฝันดั้งเดิมของหลุยส์ไม่ใช่การเป็นเชฟ แต่เป็นการเป็นนักฟุตบอล 

“ผมชอบฟุตบอลมากตั้งแต่เด็กครับ ตอนเด็ก ๆ เคยคิดเลยว่าถ้ามีใครมาสนับสนุนให้ไปทางสายนี้ ผมก็อาจจะไปแล้วก็ได้ (ฮา) ชอบจริง ๆ ครับ แต่ก็สมัยที่ผมเรียนมัธยมฯ มีวิทยากรท่านหนึ่งที่โรงเรียนเชิญมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับชีวิตในอนาคต หลัก ๆ คือเขาบอกว่าให้พยายามเลือกในสิ่งที่ไม่ใช่แค่ชอบอย่างเดียว แต่ต้องประกอบอาชีพที่ดีในอนาคตได้ด้วย เลยทำให้โป๊ะเชะตรงที่เชฟ เพราะผมก็สนใจด้านนี้ อนาคตก็น่าจะดีด้วย ตอนแรกผมไม่ได้รู้สึกรักหรือชอบงานครัวขนาดนั้นนะครับ แต่ผมเพลินเวลาเข้าครัว ผมทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก ๆ ตอนนั้นเห็นคุณแม่ชอบทำอาหาร เลยก็อยากรู้อยากเห็นอยากทำเองเป็นบ้าง เลยเริ่มหัดนู่นหัดนี่เองมาตลอด จนตอนนี้ผมทำครัวได้เรื่อย ๆ ทำโดยไม่เหนื่อย ผมแฮปปี้ งานบางงานที่ผมไม่ได้แฮปปี้ ทำไปเรื่อย ๆ ผมก็จะเหนื่อยไปเอง เหมือนหมดไฟไปเลย แต่อันนี้ผมทำไปได้เรื่อย ๆ ทำเหมือน relax ไปเลย” 

สำหรับเชฟรุ่นเยาว์หลาย ๆ คน อนาคตของพวกเขาคือการได้เป็นพ่อครัวใหญ่ หรืออาจเล็งดาวมิชลินไว้ แต่สำหรับหลุยส์ ความฝันของเขาช่างเรียบง่าย 

“ตอนแรกผมก็อยากเป็นเชฟมิชลิน เชฟที่ได้ทำงานต่างประเทศนะครับ แต่พอได้เข้ามาในวงการนี้จริง ๆ แล้ว มันไม่ได้ง่าย มันต้องใช้เวลาพอสมควรเลย ผมแค่อยากเติบโตในสายอาชีพนี้เพราะคิดว่ามันดีต่อตัวผม ผมเลยไม่ได้หวังว่าจะต้องประสบความสำเร็จเป็นถึงเชฟชื่อดังอะไรนะครับ แต่ว่าขอแค่มีอนาคตที่ดีก็พอแล้วครับ อยากทำงานนี้ให้รู้สึกว่าประสบความสำเร็จที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ก็คือทำให้เต็มที่ มีโอกาสอะไรเข้ามาก็เก็บเกี่ยวให้ได้มากที่สุด ถึงไม่มีโอกาสเข้ามาก็เข้าหาโอกาสครับ” 

การพุ่งเข้าหาโอกาสของหลุยส์นี่แหละที่อาจเรียกได้ว่าเป็นความฮอตที่แท้จริงของเขา 

“ตอนผมเริ่มเรียนที่วิทยาลัยฯ ผมก็เริ่มหางานทำในร้านอาหาร เริ่มจากงานเสิร์ฟ ทำไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มมีโอกาสเข้าไปทำในครัว พอเริ่มเจอคนมากมายจนมีคอนเนคชั่นเยอะ ๆ เข้า ตอนนี้ผมได้เป็น casual (พนักงานชั่วคราว) ที่โรงแรม 5 ดาวหลายที่ครับ ที่ผมเลือกไปทำที่โรงแรม 5 ดาวเพราะมันให้ประสบการณ์ที่ดีครับ ผมพยายามเลือกสิ่งดี ๆ ให้ตัวเองเหมือนกับที่ผมเลือกเรียนที่วิทยาลัยดุสิตธานีนี่แหละครับ ผมไปทำเสิร์ฟกับครัวของฝ่าย banquet (งานจัดเลี้ยง) สลับกันครับ ข้อดีของการทำงานสลับฝ่ายกันคือพอเราได้รู้ทั้ง 2 มุม มันทำให้ผมได้เข้าใจในสิ่งที่คนอีกฝ่ายอาจไม่เข้าใจมาก่อนก็ได้ อีกอย่างที่ผมได้จากการทำงานโรงแรมคือระบบการทำงาน ผมได้เรียนรู้ว่าคนในครัวแค่ 10-13 คนจะ manage อาหารสำหรับแขก 300-400 คนได้อย่างไร เขาต้องมีการเตรียมตัว มีระบบการจัดการที่ดีขนาดไหน ซึ่งผมอธิบายตรงนี้ไม่หมดครับ” 

ทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าตารางเรียนและตารางงานของหลุยส์จะเต็มทุกวัน หลุยส์ก็ไม่ลืมที่จะหาเวลาสำหรับการพักผ่อนและการพัฒนาตัวเอง 

“ผมมีงานอดิเรกอยู่ 2 แบบครับ แบบแรกเป็นสิ่งที่ผมชอบทำตอนที่ว่างจริง ๆ อีกแบบคือสิ่งไม่ค่อยชอบทำแต่ต้องทำให้รู้สึกผ่อนคลายครับ สิ่งที่ชอบทำคือเตะฟุตบอลกับเล่นกีต้าร์ร้องเพลงครับ ร้องเล่นคนเดียวในห้อง อยากร้องอะไรก็ร้อง สิ่งที่ไม่ชอบทำแต่ทำประจำคือนอนอยู่เฉย ๆ ในห้อง เล่นมือถือ กับดูซีรีส์ช่วงวันหยุดหลังทำงานต่อเนื่องกันยาว ๆ ครับ มันเป็นการปลุกไฟในตัวเองเวลาที่รู้สึกล้ามาก ๆ เพราะผมเป็นคนอยู่เฉย ๆ ไม่ค่อยได้ พอลองอยู่เฉย ๆ ได้สัก 2 วันก็ทนไม่ไหวแล้วพี่ (ฮา) ไฟมันก็กลับมาครับ แต่ต้องอยู่ในห้องจริง ๆ นะ อย่าไปเที่ยว ถ้าไปเที่ยวกลับมาก็เหนื่อยอีก ส่วนตอนนี้ ผมกำลังฝึกเรื่องภาษาอยู่ เพราะภาษายังได้ไม่เยอะ ยังไม่แข็ง ผมพยายามคุยกับพ่อเยอะ ๆ อ่านศัพท์อ่านอะไรเยอะ ๆ ดูซีรีส์ British American ภาษามันสำคัญมาก ๆ มันเป็นโอกาสในการต่อยอดอนาคตได้เยอะเลยครับ” 

สำหรับความฮอตของหลุยส์ในด้านความรัก หลุยส์บอกว่าชอบคนที่ทัศนคติ ชอบคนที่มีความทะเยอทะยาน พยายามดึงตัวเองให้ขึ้นสูงตลอดเวลา และต้องเป็นคนมองโลกในแง่ดี แต่ก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยว่าหลุยส์มีเจ้าของแล้ว 

“ผมคบกับเขามาได้ 4 ปีแล้วครับ ตั้งแต่สมัยมัธยมฯ เขาอายุมากกว่าผม แต่การได้อยู่กับเขาทำให้ผมโตขึ้นเยอะครับ” 

ก่อนจากกันไป หลุยส์ขอฝากข้อความถึงน้อง ๆ ที่สนใจจะมาเรียนที่วิทยาลัยดุสิตธานีและน้อง ๆ ที่กำลังตามหาตัวเองอยู่ว่า “ถ้าเข้ามาเรียนที่นี่ ขอให้น้อง ๆ ใช้ชีวิตให้คุ้ม ประสบการณ์สำคัญพอ ๆ กับความรู้ในห้องเรียน ดังนั้น ทำให้สุดในทุกทางที่เลือก ระหว่างที่ยังเรียนมัธยมฯ อยู่ ถ้ามีเวลาว่าง พยายามหาประสบการณ์เยอะ ๆ ดูว่าตัวเองชอบหรือรักอะไรจริง ๆ” 

 ส่วนตัวผู้เขียนมองว่าเสน่ห์ของหลุยส์ที่ทำให้หลาย ๆ คนหลงรักก็คือทัศนคติของเขา ทั้งความเป็นกันเอง ความจริงใจ และความถ่อมตน ซึ่งเป็นคุณลักษณะสำคัญของผู้ที่จะประสบความสำเร็จในสายงานบริการในอนาคต 

DTC Talk

สอบถามเพิ่มเติม

สำนักประชาสัมพันธ์

โทร: 02 721 7811–3 อีเมล: pr.pr@dtc.ac.th

ข่าวอื่น ๆ

สอบถามเพิ่มเติม

สำนักประชาสัมพันธ์

โทร: 02 721 7811–3 อีเมล: pr.pr@dtc.ac.th

ยินดีต้อนรับสู่วิทยาลัยดุสิตธานี​
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ของวิทยาลัยได้ คลิก!

คุณได้เพิ่มคอร์สเรียนแล้ว