Hi

อยากเป็นเชฟ เรียนที่ไหนดี? 6 ปัจจัยในการเลือกเรียนเชฟ 

26 กุมภาพันธ์ 2025

หนึ่งในอาชีพที่ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยก็ยังเป็นที่ต้องการของตลาด และเป็นที่ใฝ่ฝันของใครหลายๆ คนก็คือ “เชฟ” ยิ่งเวลาได้ดูลีลาของสุดยอดเชฟในรายการทำอาหารมากมาย หรือแม้แต่คอนเทนต์จากเหล่าครีเอเตอร์ในติ๊กต่อก ทำให้หลายคนมองว่าอาชีพเชฟ เป็นมากกว่าผู้เชี่ยวชาญในการประกอบอาหาร แต่คือ ศิลปิน ที่สามารถสร้างสรรค์งานศิลปะบนจานอาหารเพื่อให้ความสุขแก่เหล่านักกิน (และผู้ชม) ด้วยทั้งศาสตร์และศิลป์ที่ต้องมีครบถ้วน ทำให้การเรียนรู้พื้นฐานและการฝึกฝนสำคัญอย่างมากต่อผู้ที่ต้องการเรียนเชฟ สำหรับผู้ที่กำลังต้องการเริ่มต้นตามความฝันการเป็นเชฟ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร ต้องพิจารณาอะไรบ้าง เรามี 6 ปัจจัยสำคัญในการเลือกเรียนเชฟ มาให้อ่านเป็นไอเดียก่อนการตัดสินใจ ไปเริ่มกันเลย 

1. สนใจศาสตร์การทำอาหารด้านใด? 

ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกเรียนเชฟ ลองสำรวจตัวเองก่อน ว่าตนเองสนใจศาสตร์การครัวด้านใดเป็นพิเศษหรือไม่ เช่น อาหารตะวันตก อาหารไทย เบเกอรี่ การตกแต่งอาหาร และอื่นๆ หากมีความสนใจพิเศษในด้านใดด้านหนึ่งแล้ว ก็จะสามารถนำไปประกอบการเลือกหลักสูตรที่ต้องการได้อย่างมีทิศทางมากขึ้น เนื่องจากหลักสูตรของแต่ละสถาบันมีจุดแข็งต่างกันออกไป ผู้เรียนจึงต้องศึกษารายละเอียดของแต่ละหลักสูตร ประกอบกับความสนใจของตนเองด้วย และยิ่งไปกว่านั้น หากตั้งเป้าหมายไว้ชัดเจนแล้วก็จะทำให้สามารถเลือกหลักสูตรได้ไม่ยาก เช่น ผู้ที่มีเป้าหมายในการเป็นเชฟในต่างประเทศและมีจุดแข็งในการทำอาหารตะวันตกเป็นหลัก ควรที่จะเลือกเรียนหลักสูตรนานาชาติที่สอนพื้นฐานการทำครัวมาตรฐานโลก และเป็นหลักสูตรที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก 

เลอ กอร์ดอง เบลอ

หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาศิลปะการประกอบอาหารอย่างมืออาชีพ (หลักสูตรเลอ กอร์ดอง เบลอ)

2. ชื่อเสียงของสถาบัน 

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าชื่อเสียงของสถาบันถือเป็นปัจจัยต้นๆ ที่หลายคนนำมาใช้ในการพิจารณาเลือกในการเรียนเชฟ เพราะชื่อเสียงสถาบันสามารถเป็นใบเบิกทางในการเข้าทำงานที่สำคัญ  

ยิ่งถ้าเป็นสถาบันที่เปิดมาอย่างยาวนาน มีรุ่นพี่ที่ออกไปสร้างชื่อเสียงหลายต่อหลายรุ่นแล้วล่ะก็ ยิ่งเป็นเหมือนการการันตีคุณภาพของบุคลากรสายเชฟที่จบจากสถาบันนั้นๆ และมันยังสะท้อนถึงคุณภาพของหลักสูตรและการเรียนการสอนอีกด้วย การเรียนเชฟจบในสถาบันที่มีชื่อเสียงที่ดี และมีผลงานของศิษย์เก่ามากมาย เพิ่มโอกาสให้คุณเป็นที่ต้องการของตลาด ใครๆก็อยากแย่งตัวไปร่วมงาน บางสถาบันถึงกับมีผู้ประกอบการใหญ่ๆ ไปรอจองตัวนักศึกษาปี 4 ก่อนเรียบจบเสียด้วยซ้ำ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนอกจากชื่อเสียงของสถาบันแล้ว ความชอบและความสนใจในตัวหลักสูตรที่กล่าวมาในข้อ 1 ก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะการเรียนเชฟไม่ได้มีแค่ศาสตร์เดียว แต่มีหลากหลายมากมายจึงต้องเลือกให้เหมาะกับความสนใจ และเลือกในสถาบันที่มีชื่อเสียงในศาสตร์นั้นๆ 

3. ห้องปฏิบัติการครัวและอุปกรณ์ 

การเรียนเชฟเป็นศาสตร์ที่ต้องเรียนโดยใช้การลงมือปฎิบัติจริง ดังนั้นก่อนที่จะไปสมัครเรียนสถาบันใด ควรไปเยี่ยมชมสถานที่เรียนจริง ว่ามีห้องปฏิบัติการครัวพร้อมหรือไม่ มีการแยกห้องปฎิบัติการต่างๆ อย่างเหมาะสมหรือไม่ เช่น ห้องปฎิบัติการครัว ห้องเบเกอรี่ ห้องจัดดอกไม้ ห้องเรียน Demo แบบต่างๆ ที่สามารถมองเห็นอาจารย์ผู้สอนขณะลงมือปฎิบัติได้จริง และต้องแน่ใจว่ามีพร้อมสำหรับนักเรียนทุกคนใน class โดยไม่ต้องแบ่งทำร่วมกับนักศึกษาคนอื่นมากเกินไป เพราะนักศึกษาควรได้ฝึกทำทุกอย่างด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดความชำนาญ อีกทั้งวัตถุดิบที่ใช้ ต้องมีพร้อม ให้สามารถฝึกฝนการเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีและถูกต้องอีกด้วย 

4. ค่าเล่าเรียน 

ค่าเล่าเรียนถือเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญในการประกอบการตัดสินใจ เพราะถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงและต้องจ่ายนานถึง 4 ปี จนกว่าจะจบการศึกษา ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเรียนเชฟนั้นประกอบด้วยค่าใช้จ่ายคงที่ และค่าใช้จ่ายผันแปร ซึ่งค่าเทอมถือเป็นค่าใช้จ่ายคงที่ ส่วนค่าอุปกรณ์นั้นผันแปรตามหลักสูตรและสถาบัน ซึ่งในส่วนนี้จะต้องตรวจสอบกับสถาบันก่อนเข้าเรียนให้แน่ชัดว่านอกจากค่าเทอมแล้ว ผู้เรียนจะต้องมีการจ่ายค่าอะไรเพิ่มอีกบ้างในแต่ละเทอม

เพราะบางสถาบันค่าเทอมนั้นได้ถูกรวมกับค่าวัตถุดิบแล้ว ซึ่งการจะตัดสินใจว่าค่าเทอมคุ้มค่าหรือไม่ ต้องพิจารณาด้วยว่าหลักสูตรที่เรียนตอบสนองความสนใจเราได้หรือไม่ และจากประสบการณ์รุ่นพี่ร่วมสถาบันส่วนใหญ่มีอัตราการประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับมากน้อยเพียงไร ตรงกับเป้าหมายที่เราต้องการหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้ควรศึกษาเพิ่มเติมจากรุ่นพี่ที่เคยจบในสถาบันนั้นๆ อาจารย์ หรือแม้แต่เชฟที่มีประสบการณ์ เพื่อให้แน่ใจว่าคุ้มค่ากับเป้าหมายที่ตั้งไว้ในอนาคต 

5. ความหลากหลายของวิชาเสริม 

ถึงจะขึ้นชื่อว่าเรียนเชฟ แต่แน่นอนว่า็ยังมีหลากหลายศาสตร์ สาชา วิชา ให้เรียนรู้ควบคู่กันไป และหลังจากเข้าเรียนไปแล้ว ทุกคนก็จะค้นพบความชอบและความสนใจเพิ่มเติมในศาสตร์เฉพาะด้านอื่นๆ ซึ่งบางสถาบันจะมีวิชาเสริมพิเศษให้นักศึกษาสามารถลงเพิ่มได้ตามความสนใจ เช่นการทำ  MOU กับสถาบันดังๆ  อย่างวิทยาลัยดุสิตธานี มีการทำ MOU กับ สถาบัน Tsuji จากญี่ปุ่น ให้นักศึกษาสามารถลงเรียนวิชาอาหารญี่ปุ่นกับอาจารย์ชาวญี่ปุ่นจริง เพื่อให้นักศึกษาสามารถลงเรียนเพิ่มได้ตามความสนใจ และให้ได้ความรู้ พื้นฐานการเรียนจริงๆ จากสถาบันระดับโลก 

เรียนทำอาหารญี่ปุ่น ซือจิ ดุสิตธานี

(บรรยากาศการเรียนคอร์สการประกอบอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ สอนโดยอาจารย์จากสถาบัน Tsuji จากประเทศญี่ปุ่น)

6. ได้ลง ‘สนามจริง’ 

การเรียนภาคปฏิบัติในห้องปฏิบัติการที่เหมาะสมและได้มาตรฐาน ก็ยังไม่สำคัญเท่าการได้ฝึกงานในสนามจริง เพราะในท้ายที่สุด คนเรียนเชฟส่วนใหญ่ก็อยากจบไปเพื่อทำงานในร้านอาหารหรือภัตตาคาร การสะสมประสบการณ์จากการลงสนามจริงจึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการเรียนเชฟ เพราะเชฟมืออาชีพจะต้องมีความแม่นยำ รวดเร็วในการปฏิบัติงานในห้องครัว นอกจากนี้แล้วยังมีทักษะการบริหารจัดการครัวอีกด้วย ดังนั้นการเลือกสถาบันที่ส่งเสริมให้นักศึกษาออกไปฝึกงานจริงนั้นสำคัญอย่างมาก โดยต้องศึกษาหลักสูตรให้ชัดเจนว่ามีการให้นักศึกษาฝึกงานมากน้อยเพียงไร และมี MOU กับที่ไหนบ้าง เพราะหากนักศึกษามีความสนใจฝึกงานเพื่อพัฒนาทักษะที่สนใจ สถาบันจะต้องสามารถส่งให้ไปฝึกงานในสถานประกอบการหรือสถาบันชั้นนำทั่วโลก เพื่อให้นักศึกษาได้ประสบการณ์อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย รวมถึงได้เรียนรู้ความหลายหลายของวัฒนธรรมการทำงานในประเทศต่างๆ อีกด้วย  

อย่างวิทยาลัยดุสิตธานีเอง มีการส่งเสริมให้นักศึกษาได้เรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติจริง ด้วยการเรียนรู้แบบ WIL (Work Integrated Learning) ตั้งแต่ปี 1 รวมไปถึงการฝึกงานและเรียนรู้งานจากโรงแรมในเครือดุสิตธานี หรือแม้แต่ในพื้นที่วิทยาลัยเอง มีทั้ง D-Cafe และศูนย์อาหารใหม่ของเราอย่าง D-Corner เป็นพื้นที่ให้นักศึกษาได้ทดลอง ฝึกฝน การบริหารร้านอาหารทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมอาหารหลังเตา ไปจนถึงการบริการลูกค้าจริงๆ โดยมีอ. ดูแลอย่างใกล้ชิด  

จาก 6 ข้อที่เล่ามา จะเห็นได้ว่าการเลือกเรียนเชฟ หรือสาขาใดๆ ก็ตามไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้เรียนจะต้องมีเป้าหมายที่มุ่งมั่นและมี passion กับสิ่งจะเรียนอย่างมาก เพราะถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการกำหนดเส้นทางชีวิตเลยทีเดียว โดยเฉพาะการเรียนเชฟที่ต้องอาศัยทั้งความชอบ ความอดทนเป็นอย่างมาก แต่ถ้าหากเลือกได้อย่างถูกต้อง และมีความมุ่งมั่นตั้งใจ รับรองว่าความฝันที่จะเป็นเชฟระดับโลกอยู่ไม่ไกลแน่นอน 
บทความ

สอบถามเพิ่มเติม

สำนักประชาสัมพันธ์

โทร: 02 721 7811–3 อีเมล: pr.pr@dtc.ac.th

ข่าวอื่น ๆ

สอบถามเพิ่มเติม

สำนักประชาสัมพันธ์

โทร: 02 721 7811–3 อีเมล: pr.pr@dtc.ac.th

คุณได้เพิ่มคอร์สเรียนแล้ว