“It’s time for Taiwan!” ถึงเวลาของหมี Oh Bear แล้ว !! 

10 ธันวาคม 2024

เรื่องโดย อาจารย์นิศา บูรณภวังค์ อาจารย์ประจำศูนย์ภาษา วิทยาลัยดุสิตธานี

ที่มา: The Bangkok Insight (www.thebangkokinsight.com) 

——————————————————————————

ถ้าจะให้พูดถึงประเทศที่พวกเราชาวไทยนิยมไปเที่ยวพักผ่อน ประเทศไต้หวันก็น่าจะติดอันดับ Top5 อย่างไม่ต้องสงสัย จากประเทศที่คนไม่ค่อยรู้จัก กลายเป็นจุดหมายปลายทางระดับต้นๆ กันไปแล้ว อาจจะเพราะมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ผสมผสานทั้งความละมุนละไม ธรรมชาติที่สมบูรณ์ และความทันสมัยของบ้านเมือง  

โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ประเทศไต้หวันมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหลังเหตุการณ์ Covid-19 รัฐบาลจัด โครงการ Taiwan Lucky Land ขึ้นจนถึงมิถุนายนปีหน้า เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางแบบอิสระมาเที่ยวและลุ้นรับรางวัลในลักษณะของบัตรแทนเงินสด หรือ Accommodation Voucher คนละ 5,000 ดอลลาร์ไต้หวัน เพื่อใช้เข้าพักในโรงแรมก็ได้ ดังนั้น เมื่อนักท่องเที่ยวทุกคนก้าวพ้นสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินนานาชาติเถาหยวนแล้ว สิ่งแรกที่จะต้องทำเลย คือ การชิงโชค Lucky Draw นั่นเอง….แต่ เอ๊ะ !….จะมีใครเหมือนกับผู้เขียนที่เป็นอาจารย์วิทยาลัยดุสิตธานีบ้างไหมนะที่จำเป็นต้องช่างสังเกตเพื่อเก็บสิ่งรอบตัวมาสอนนักศึกษา ว่า…ทำไม ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นการโฆษณาเชิญชวนให้ท่องเที่ยวของไต้หวันล้วนแต่มีมาสคอตรูป “เจ้าหมีสีดำ” ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นทางเดินในสนามบิน  ป้ายประกาศร่วมลุ้นรางวัล หรือป้ายประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ นานา ….เจ้าหมีตัวนี้คือสัตว์ประจำชาติของประเทศไต้หวันหรืออย่างไรกัน ? 

เจ้าหมีดำหน้าตาจิ้มลิ้มตัวนี้ ชื่อว่า “Oh Bear”  หมี Oh Bear มีที่มามาจาก หมีดำฟอร์โมซา ซึ่งเป็นสัตว์สัญลักษณ์การท่องเที่ยวของไต้หวันและเพิ่งได้แต่งตั้งเป็นสัตว์สัญลักษณ์การแต่งงานเพศเดียวกันในไต้หวันเมื่อวันที่ 24 พ.ค 2562 (https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_2604580) การที่ไต้หวันนำเอาสัตว์ตัวนี้มาเป็นมาสคอต เป็นเพราะว่าหมีดำฟอร์โมซาเป็นสัตว์อนุรักษ์ของไต้หวัน รองศาสตราจารย์ หวาง เม่ย-ซิ่ว ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์อนุรักษ์ บอกว่าจำนวนหมีดำเกือบสูญพันธุ์แล้ว เพราะถูกล่าอย่างผิดกฎหมาย ปัจจุบันอาจมีหมีดำในไต้หวัน เพียงแค่ 200-600 ตัว ซึ่งมีจำนวนลดลงจากในอดีตอย่างเห็นได้ชัด สหภาพสากลว่าด้วยการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ICUN) จัดอันดับหมีดำฟอร์โมซาให้อยู่ในกลุ่ม “สิ่งมีชีวิตที่เกือบอยู่ในข่ายใกล้สูญพันธุ์” 

ประวัติคร่าว ๆ ของหมี Oh Bear เริ่มขึ้นจากการที่กระทรวงคมนาคมและการสื่อสารของประเทศไต้หวันได้สร้างมาสคอตตัวนี้มาเพื่อเป็นตัวแทนของการท่องเที่ยว โดยเริ่มเผยแพร่จากการเป็นสติ๊กเกอร์ไลน์ก่อนในวันที่ 3 ธันวาคม 2013 และต่อมาในปี 2018 สำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวัน ร่วมมือกับรัฐบาลไถตง จัดกิจกรรมบอลลูนในไต้หวันโดยทำ “บอลลูน Oh Bear” ขึ้น และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จนทำให้ทางสำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวันมีแผนที่จะปล่อยบอลลูนให้ลอยไปทั่วโลกเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของไต้หวัน ทั้งนี้ ประเทศไทยเราก็มีโอกาสต้อนรับบอลลูน Oh Bear ด้วยเช่นกัน เพราะในวันที่ 9 -12 พฤษภาคม 2562 ณ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีการจัด “เทศกาลสีสันบอลลูนนานาชาติ” ขึ้น ทางผู้จัดเทศกาลได้เชิญให้บอลลูน Oh Bear ของไต้หวันมาร่วมแสดงในเทศกาลนี้เป็นการพิเศษ ด้วยรูปร่างอันน่ารักของบอลลูน ทำให้ผู้มาเยี่ยมชมงานเทศกาลต่างชื่นชอบและแย่งกันถ่ายภาพเป็นที่ระลึกมากมาย 

ล่าสุดในปี 2024 มีการจัดเทศกาลโคมไฟในเมืองไถหนาน หมีOh Bear ก็ปรากฏตัวขึ้นอีกในรูปแบบของ ถุงเครื่องรางท่องเที่ยวไถหนาน โดยลวดลายของถุงนั้นจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในไถหนาน ภายในถุงจะใส่เกลือ จากนาเกลือกระเบื้องจิ่งไจ๋เจี่ยว (Jingzaijiao Tile-paved Salt Fields) ซึ่งมีความเชื่อว่าสามารถไล่วิญญาณชั่วร้ายได้ และนอกจากทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ หมี Oh Bear ยังมาในรูปของผลิตภัณฑ์ของฝากต่าง ๆ เช่น ขนมเปี๊ยะ กาแฟ  ช็อคโกแลต และขนมนูกัต (ตังเมไต้หวัน) ที่ใครเห็นก็อดใจไม่ได้ที่จะซื้อหาหอบหิ้วกลับมาฝากเพื่อนฝูง 

นับได้ว่า มาสคอตมีความสำคัญในการประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างให้เกิดการจดจำและสร้างภาพลักษณ์เชิงบวก มาสคอตจึงมักถูกออกแบบในคาแรคเตอร์ของสิ่งที่สามารถรับรู้ร่วมกันได้ง่าย เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำและเกิดความประทับใจ  ด้วยเหตุนี้หมี Oh Bear ที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยวัตถุประสงค์อันชัดเจน ยิ่งเมื่อประกอบกับการมีภูมิหลังก็ยิ่งช่วยทำให้ผู้บริโภครู้สึกผูกพันมากขึ้น จัดว่าเป็นกลวิธีที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งในการสร้างแรงดึงดูดใจที่มีผลในระยะยาว ทั้งยังเป็นการสร้างความทรงจำและภาพลักษณ์ให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี 

บทความ

สอบถามเพิ่มเติม

สำนักประชาสัมพันธ์

โทร: 02 721 7811–3 อีเมล: pr.pr@dtc.ac.th

ข่าวอื่น ๆ

02 ธันวาคม 2025

วิทยาลัยดุสิตธานีจัดกิจกรรม “Heart and Value” สร้างสัมพันธ์ชุมชนกับโรงเรียนแก่นทองอุปถัมภ์ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 วิทยาลัยดุสิตธานี นำโดยฝ่ายทรัพยากรบุคคล พร้อมคณาจารย์และนักศึกษา จัดกิจกรรม “Heart and Value” ณ โรงเรียนแก่นทองอุปถัมภ์ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ในชุมชนและมอบความรู้ที่สามารถต่อยอดเป็นอาชีพได้ โดยมีการสาธิตการทำโมจิครีมชีส การทำเครื่องดื่ม Signature Drink การจัดดอกไม้และเทคนิคการจับจีบผ้า รวมถึงกิจกรรมปรับภูมิทัศน์โรงเรียนร่วมกับนักเรียน กิจกรรมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารวิทยาลัยและโรงเรียนแก่นทองอุปถัมภ์ พร้อมบรรยากาศที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความสนุกสนาน และสาระที่เป็นประโยชน์ สมดังชื่องาน “Heart and Value” ที่มุ่งสร้างคุณค่าและความผูกพันในชุมชน

01 ธันวาคม 2025

วิทยาลัยดุสิตธานีจัดงาน Energy Saving Day 2568 ตอกย้ำความตระหนักรู้ด้านการอนุรักษ์พลังงาน เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 วิทยาลัยดุสิตธานีจัดงาน “Energy Saving Day” ประจำปี เพื่อสร้างและตอกย้ำความสำคัญของการอนุรักษ์พลังงาน ภายใต้แนวคิด “ลดลงแน่ถ้าเพิ่มแค่ 1” โดยรณรงค์ให้นักศึกษาและบุคลากรปรับอุณหภูมิห้องขึ้น 1 องศาเซลเซียส เพื่อลดการใช้พลังงาน พร้อมกิจกรรมอบรมและสาธิตที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการประหยัดพลังงาน การคัดแยกขยะ และการทำปุ๋ยจากเศษอาหาร กิจกรรมนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของวิทยาลัยในการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะด้านพลังงาน เพื่อร่วมกันรักษาโลกให้น่าอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน

สอบถามเพิ่มเติม

สำนักประชาสัมพันธ์

โทร: 02 721 7811–3 อีเมล: pr.pr@dtc.ac.th