เวทีการแข่งขันอาจถือได้ว่าเป็นพื้นที่สำหรับปล่อยของปลดล็อกความสามารถของใครหลาย ๆ คน รวมถึงเป็นเวทีสำหรับแสดงศักยภาพเพื่อต่อยอดโอกาสให้กับตนเอง
เช่นเดียวกันกับ ภู-ภูริพัฒน์ วุฒิพัฒนานนท์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาการจัดการครัวและศิลปะการประกอบอาหาร วิทยาลัยดุสิตธานี ที่สนใจการแข่งขันตั้งแต่ก่อนเข้าเรียนที่วิทยาลัยฯ ซึ่งปัจจุบัน ภูได้กลายเป็นเชฟนักแข่งผู้ที่คว้าเหรียญรางวัลจากการแข่งหลายรายการ ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ รวมถึงได้แชมป์เหรียญทองพร้อมเป็นตัวแทนประเทศจากการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ หรือ WorldSkills Thailand ครั้งที่ 28
“สมัยผมเรียนอาชีวะ มักจะมีงานแข่งจากสาขาต่าง ๆ ที่มาหาเด็กอาชีวะไปลงแข่ง รวมถึงการแข่ง WorldSkills ด้วย ตอนนั้นผมก็รู้สึกว่างานนี้ดูยิ่งใหญ่มาก อยากลองลงแข่งดู ผมเลยได้ไปศึกษาเกี่ยวกับ WorldSkills เพิ่ม ค้นหาสาขาการแข่งที่ตัวเองสนใจเพิ่มขึ้น จนได้เจอสาขาประกอบอาหาร เพราะผมมีความชอบทำอาหารตั้งแต่เด็ก ผมเลยสนใจเรียนต่อด้านอาหาร และแรงบันดาลใจของผมตอนนั้นคือพี่ถิงถิง (ณัชชา แซ่โง้ว ศิษย์เก่าวิทยาลัยดุสิตธานี สาขาเดียวกันกับภู) ตอนนั้นเขาแข่ง WorldSkills สาขาประกอบอาหารได้ที่ 2 ของประเทศ เลยทำให้ตัดสินใจมาเรียนที่วิทยาลัยดุสิตธานีครับ”
จากเป้าหมายสู่การพุ่งเข้าชน หลังจากที่ภูได้เข้าเรียนที่วิทยาลัยดุสิตธานี สถานศึกษาที่ได้รับมาตรฐานอันทรงคุณค่าจากผู้ให้กำเนิดอย่างโรงแรมดุสิตธานี เขาได้รู้จักกับแผนกกิจกรรมการแข่งขันการครัวและวิชาการ ซึ่งเป็นแผนกที่ดูแลด้านการฝึกฝนพัฒนาทักษะของนักศึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญและอาจารย์ที่ปรึกษาอย่างใกล้ชิดและเข้มข้น ก่อนที่จะส่งนักศึกษาไปแข่งขันในเวทีต่าง ๆ ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ อันเป็นการต่อยอดโอกาสและทักษะให้นักศึกษา ที่แผนกนี้ ภูได้ผ่านการคัดเลือกให้เข้าร่วมทีมและได้รับการชี้แนะจากทั้งอาจารย์และรุ่นพี่ รวมถึงได้มีการเก็บตัวฝึกซ้อมจนมีทักษะพร้อมลงแข่ง
“ที่นี่และงานแข่งให้ทักษะกับผมครับ เพราะแต่ละงานแข่งก็มีโจทย์ที่แตกต่างกัน เราก็จะได้เรียนรู้ ได้ฝึกซ้อมทักษะที่แตกต่างกัน ได้เรียนรู้ที่จะบริหารวัตถุดิบให้เป็น นอกจากนี้ การแข่งยังให้ความพยายาม ความอดทน และการจัดการอารมณ์กับผม เพราะบางทีอยู่ในสนามแข่ง 1 ชั่วโมง วางแผนที่จะทำอาหาร 10 อย่าง ถ้าเกิดเราทำพลาดไป 2 อย่าง มันจะเริ่มมีอารมณ์เกิดขึ้น ถ้าเราควบคุมอารมณ์ไม่ได้และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไม่ดี อาจจะทำให้พลาดจาก 2 จะกลายเป็น 10 เลยก็ได้”
เมื่อพรสวรรค์ของภูผนวกกับการฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ และการสนับสนุนจากทั้งอาจารย์ รุ่นพี่ และวิทยาลัยฯ ที่จัดห้องครัวไว้ให้สำหรับซ้อมโดยเฉพาะ เหรียญรางวัลจึงเป็นผลตอบแทนจากความพยายามทั้งหมดนี้
“ผมได้เหรียญทองแดงจากการแข่งทำขนมที่งาน ThaiFEX ได้เหรียญทองแดงจากการแข่งทำอาหารตะวันตกประเภทคู่ และได้เหรียญทองจากการแข่งประเภทเดี่ยวที่ HoFEX ฮ่องกง แล้วก็ได้เหรียญทองจากงานแข่งทำอาหารทะเลจากงาน Alaska Seafood ล่าสุด ผมเก็บทุกเหรียญทองจากการแข่งระดับภูมิภาคของ WorldSkills เพื่อให้ได้เป็นตัวแทนประเทศครับ”
นอกจากเหรียญรางวัลและการเรียนรู้ทักษะการประกอบอาหารแล้ว ภูยังได้เพิ่มโอกาสสู่เส้นทางที่เขาฝันไว้
นอกจากบทบาทของนักแข่งแล้ว ตอนนี้ภูยังได้มีโอกาสรับบทเป็นโค้ชแนะนำรุ่นน้องในการเตรียมตัวเพื่อเข้าประกวด ซึ่งบทบาทใหม่นี้ทำให้ภูได้เรียนรู้สิ่งล้ำค่าอีกสิ่งหนึ่งที่หาจากที่อื่นใดไม่ได้อีกแล้ว
“ถ้าเทียบตอนที่ผมเป็นผู้รับกับตอนนี้ที่ผมเป็นผู้ให้ ผมได้เรียนรู้อะไรเยอะมากเลยครับ ผมได้มองเห็นตัวเองตอนเพิ่งเข้ามา เมื่อก่อนผมเป็นคนชอบความท้าทายครับ ชอบการแข่งขัน อยากชนะ อยากพิสูจน์ตัวเองให้คนอื่นได้เห็น แถมเป็นคนดื้อด้วยครับ บางครั้งที่อาจารย์หรือรุ่นพี่แนะนำให้ทำหรือไม่ทำอะไรที่ตรงกันข้ามกับที่ผมคิด ผมจะถามขึ้นมาทันทีครับ ผมมีอีโก้มากเลยมีรุ่นพี่คนหนึ่งสอนให้ผมลดความอวดดีของตัวเองลง เขาบอกว่าต่อให้เราแข่งไปมากเท่าไร ได้แชมป์ได้ถ้วยมามากแค่ไหน เราก็ชนะใครไม่ได้หรอก มันแค่ทำให้คนอื่นเห็นว่าเราทำอะไรได้มากขึ้น แต่จริง ๆ แล้วเราก็เป็นคนเหมือนเดิม อยู่เท่า ๆ กันเหมือนเดิม มันทำให้ผมเริ่มมองว่าการแข่งเป็นการพัฒนาตัวเองมากขึ้น ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย และผมเริ่มเข้าใจตัวเองมากขึ้นว่าเราชอบทำในส่วนไหน และมีความสุขไปด้วยกันกับทีมครับ”
เวทีการแข่งขันในชีวิตของคนเราอาจจะแตกต่างหลากหลายกันออกไป แต่ท้ายที่สุดแล้ว การเอาชนะตัวเองและเรียนรู้ที่จะพัฒนาตัวเองอย่างยั่งยืนเป็นรางวัลที่ล้ำค่าที่สุด