เปิดร้านอาหารในยุคนี้ต้องมีอะไรบ้าง? 

05 มิถุนายน 2024

ผ่านไปแล้วกับงานมหกรรมด้านอุตสาหกรรมบริการที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์อย่าง THAIFEX – HOREC Asia 2024 ที่จัดขึ้น ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีบริษัทมาร่วมออกบูธมากถึง 359 แห่งจากรอบโลก และมีผู้เข้าร่วมกว่า 15,000 คนจาก 68 ประเทศ ภายในงานมีการจัดแสดงนวัตกรรมทางด้านธุรกิจบริการ กิจกรรมเวิร์กช็อป การแข่งขัน การบรรยาย และกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย หนึ่งในหัวข้อการบรรยายที่ผู้ประกอบการด้านอาหารให้ความสนใจเป็นอย่างมากก็คือเสวนาเรื่อง “เปิดร้านอาหารในยุคนี้ต้องมีอะไรบ้าง?” ที่เชิญชวนให้ผู้เชี่ยวชาญจากแต่ละสายมาร่วมแบ่งปันความคิดเห็นและไอเดียเกี่ยวกับความท้าทายของธุรกิจอาหารในทุกวันนี้และองค์ประกอบสำคัญที่พาให้ร้านอาหารในยุคปัจจุบันไปพบกับความสำเร็จได้ 

เสวนาหัวข้อนี้ได้รับเกียรติจากคุณ John Lhor ผู้ดำรงตำแหน่ง Executive Director of External Affairs ที่วิทยาลัยดุสิตธานี มาเป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งรูปแบบของเสวนานั้นเป็นที่จับตามองของใครหลาย ๆ คนเนื่องจากเป็นการตอบคำถามโดยผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาที่เน้นความกระชับ รวดเร็ว และสร้างแรงบันดาลใจ เรียกได้ว่าเป็นการนำทุกมุมมองที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจร้านอาหารมาแบ่งปันให้ได้รับฟังอย่างครบครัน 

เริ่มต้นที่ประเด็นใหญ่ ๆ ที่กำลังสร้างความท้าทายให้กับแวดวงร้านอาหารในปัจจุบัน คุณปริม จิตจรุงพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ็ลไลด์ เม็ททัลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้หยิบยกประเด็นเรื่องความยั่งยืนขึ้นมา ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปไปจนถึงการขาดแคลนแรงงาน คุณปริมได้แนะนำให้ผสานแนวคิดในการสร้างผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ การทำความเข้าใจความต้องการที่หลากหลายของมนุษย์ และเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างความยั่งยืนได้เข้าด้วยกันเพื่อสร้างทางออกที่ดีที่สุด คุณปริมได้เน้นย้ำว่าประเด็นเรื่องความยั่งยืนคือเทรนด์ที่กำลังมาในอนาคตสำหรับอุตสาหกรรมบริการ ดังนั้น การควบคุมปริมาณของเสีย รวมถึงการวางแผนด้านวัตถุดิบและการจัดเก็บ จะช่วยสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนมากขึ้น คุณปริมได้ให้ข้อคิดสำหรับผู้ประกอบการในการพิจารณาว่าสิ่งใดคือต้นทุน สิ่งใดคือการลงทุน ว่าเพียงแค่เปลี่ยนมุมมองก็อาจทำให้เราเปลี่ยนวิธีการใช้ทรัพยากรให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้ 

ถัดมา คุณ Simon Lloyd คณบดีหลักสูตรการจัดการอุตสาหกรรมการบริการ วิทยาลัยดุสิตธานี และหนึ่งในคณะกรรมการของศูนย์ความเป็นเลิศทางการศึกษาด้านการท่องเที่ยวและการบริการนานาชาติ (The International Centre of Excellence in Tourism and Hospitality Education: THE-ICE) ได้กล่าวถึงการขาดแคลนแรงงานว่าปัญหานี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมการบริการมา 30-40 ปีแล้ว และเทคโนโลยีเริ่มค่อย ๆ กลายเป็นเทรนด์ทางออกสำหรับประเด็นนี้ ในขณะเดียวกัน ความกลัวว่าเทคโนโลยีจะเข้ามาแทนที่มนุษย์ก็เติบโตขึ้นตามไปด้วย แต่คุณ Simon ได้แชร์ว่ามนุษย์ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ยังคงเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ เคล็ดลับคือการเรียนรู้วิธีที่จะนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการให้พื้นที่คนรุ่นใหม่ในการปลดปล่อยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และได้ทดลองสร้างสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมา อาจเป็นเรื่องยากที่จะทำให้คนรุ่นใหม่เข้ามาสู่อุตสาหกรรมนี้ แต่ถ้าผู้ประกอบการสร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและน่าสนุกให้กับพวกเขาได้ก็อาจสามารถดึงดูดบุคลากรที่น่าสนใจมาร่วมงานได้เช่นกัน  

จากนั้น คุณสุรสิทธิ์ สัจจเดว์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Hungry Hub ได้เสริมว่าเทคโนโลยีนั้นสามารถลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ในหลากหลายช่องทาง ตั้งแต่การสร้างกลไกอัตโนมัติ การมอบทางเลือกในโลกออนไลน์ที่ช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามามากขึ้น ไปจนถึงการแทนที่ภาระงานบางอย่างของมนุษย์ ในขณะที่ต้นทุนด้านอาหารที่พุ่งสูงขึ้นนั้นเป็นอุปสรรคที่ทำให้ธุรกิจร้านอาหารต้องพยายามเอาตัวรอด คุณสุรสิทธิ์เชื่อว่าตราบใดที่ร้านอาหารยังคงมอบคุณค่า เรื่องราว และบริการที่ดี อาหารเหล่านั้นก็ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค คุณสุรสิทธิ์ยังได้กล่าวต่อว่าแม้ว่าอาหารจะเป็นปัจจัยพื้นฐานของมนุษย์ แต่อาหารในกระแสช่วงนี้ต้องมอบประสบการณ์การรับประทานที่ “สวย” ด้วย คนถึงจะยอมจ่ายมากขึ้น ดังนั้น ภารกิจของบรรดาร้านอาหารในยุคนี้ก็คือการนำรสชาติที่โดดเด่นมาควบรวมกับหน้าตาอาหารที่ขึ้นกล้องด้วย   

ตามมาด้วยผู้ก่อตั้งและ CEO ของบริษัท Rev-Mantra คุณ Puneet Mahindroo ที่มาแบ่งปันความคิดเห็นเกี่ยวกับกระแสของอุตสาหกรรมอาหารว่า อาหารในทุกวันนี้คือเครื่องมือที่ผู้คนใช้ในการแสดงออกถึงสถานภาพหรือตำแหน่งที่พวกเขาต้องการจะนำเสนอให้คนอื่นรับรู้ นั่นทำให้ร้านอาหารในทุกวันนี้ควรปรับเปลี่ยนวิธีคิดจาก “การมอบสิ่งที่คิดว่าใช่สำหรับตัวเองให้กับลูกค้า” เป็น “การมอบสิ่งที่ทำให้ลูกค้าสัมผัสถึงคุณค่าที่คุ้มค่า” คุณ Puneet ยังได้แนะนำว่าผู้ประกอบการร้านอาหารต้องพยายามท้าทายตัวเองและยกระดับสถานภาพของตนให้สูงขึ้นในทุก ๆ วัน เพื่อที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและสร้างประสบการณ์ที่ดีมากยิ่งขึ้นให้กับลูกค้า นั่นก็เพราะว่าความสำเร็จของวันนี้ก็จะล้าสมัยไปแล้วในวันพรุ่งนี้  

หลังจากนั้น คุณณัฎฐินี ปลอดทอง ผู้จัดการอาวุโส Makro Horeca Academy ได้ระบุถึงปัญหาด้านต้นทุนอาหารและค่าครองชีพที่สูงขึ้นว่า ในมุมมองของผู้บริโภค ผู้คนจะเริ่มประหยัดค่าใช้จ่ายกันมากขึ้นและพยายามมองหาอาหารที่คุ้มค่าในราคาที่ประหยัดจากร้านอาหาร ซึ่งนี่อาจเป็นหนึ่งในอุปสรรคต่อวงการอาหาร ทว่า การแก้ปัญหาที่ถูกต้องไม่ใช่การเลือกใช้วัตถุดิบที่ราคาถูกที่สุด แต่เป็นการเลือกวัตถุดิบที่สร้างสมดุลระหว่างมูลค่าของอาหารและคุณค่าของมันได้ ไม่เพียงแค่นั้น คุณณัฎฐินีเน้นย้ำว่าร้านอาหารยังต้องพัฒนาการบริหารจัดการโดยรวม เช่น การจัดการคลังสินค้า การจัดซื้อ การคาดการณ์ยอดขาย และอื่น ๆ โดยอาจใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วย ผลลัพธ์ของการบริหารจัดการที่เหมาะสมคือร้านอาหารจะยังสามารถเอาตัวรอดต่อไปได้โดยที่ยังมีผลกำไรในตอนท้าย  

ปิดท้ายด้วย Head Chef ของร้านอาหาร Fuego คุณ Roger Solé Masoliver ที่เห็นด้วยกับไอเดียข้างต้นและได้แนะนำคอนเสปต์ของการจัดหาวัตถุดิบท้องถิ่นและตามฤดูกาลเนื่องจากสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและรักษาสิ่งแวดล้อมในภาพรวมได้ คุณ Roger ยังชี้ให้เห็นว่าเส้นแบ่งของความสมดุลระหว่างมูลค่าและคุณค่านั้นค่อนข้างที่จะตัดสินได้ยาก ร้านอาหารจึงต้องพยายามค้นหาสัดส่วนที่ใช่ของตัวเองผ่านการออกแบบเมนูอาหารเพื่อที่จะยังคงสร้างกำไรในต้นทุนที่ต่ำที่สุดเท่าที่เป็นไปได้แต่ยังคงสร้างความสมเหตุสมผลให้กับจานอาหารที่ลูกค้าได้รับ กระแสของสื่อโซเชียลนั้นมอบโอกาสให้กับนักลงทุนในธุรกิจอาหารเป็นอย่างมาก แต่ก็นับได้ว่าเป็นความท้าทายที่ต้องปรับตัวให้ได้เช่นกัน คุณ Roger กล่าวว่าการผสมผสานประสบการณ์ที่แตกต่างกับการปฏิบัติการที่รวดเร็วฉับไวนั้นจะทำให้ลูกค้ารู้สึกพึงพอใจกับสิ่งที่ได้รับ ก่อนที่จะสร้างแรงบันดาลใจด้วยการให้ผู้ประกอบการเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำอยู่และมีความสุขกับสิ่งเหล่านั้น 

บทความ

สอบถามเพิ่มเติม

สำนักประชาสัมพันธ์

โทร: 02 721 7811–3 อีเมล: pr.pr@dtc.ac.th

ข่าวอื่น ๆ

02 ธันวาคม 2025

วิทยาลัยดุสิตธานีจัดกิจกรรม “Heart and Value” สร้างสัมพันธ์ชุมชนกับโรงเรียนแก่นทองอุปถัมภ์ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 วิทยาลัยดุสิตธานี นำโดยฝ่ายทรัพยากรบุคคล พร้อมคณาจารย์และนักศึกษา จัดกิจกรรม “Heart and Value” ณ โรงเรียนแก่นทองอุปถัมภ์ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ในชุมชนและมอบความรู้ที่สามารถต่อยอดเป็นอาชีพได้ โดยมีการสาธิตการทำโมจิครีมชีส การทำเครื่องดื่ม Signature Drink การจัดดอกไม้และเทคนิคการจับจีบผ้า รวมถึงกิจกรรมปรับภูมิทัศน์โรงเรียนร่วมกับนักเรียน กิจกรรมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารวิทยาลัยและโรงเรียนแก่นทองอุปถัมภ์ พร้อมบรรยากาศที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความสนุกสนาน และสาระที่เป็นประโยชน์ สมดังชื่องาน “Heart and Value” ที่มุ่งสร้างคุณค่าและความผูกพันในชุมชน

01 ธันวาคม 2025

วิทยาลัยดุสิตธานีจัดงาน Energy Saving Day 2568 ตอกย้ำความตระหนักรู้ด้านการอนุรักษ์พลังงาน เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 วิทยาลัยดุสิตธานีจัดงาน “Energy Saving Day” ประจำปี เพื่อสร้างและตอกย้ำความสำคัญของการอนุรักษ์พลังงาน ภายใต้แนวคิด “ลดลงแน่ถ้าเพิ่มแค่ 1” โดยรณรงค์ให้นักศึกษาและบุคลากรปรับอุณหภูมิห้องขึ้น 1 องศาเซลเซียส เพื่อลดการใช้พลังงาน พร้อมกิจกรรมอบรมและสาธิตที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการประหยัดพลังงาน การคัดแยกขยะ และการทำปุ๋ยจากเศษอาหาร กิจกรรมนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของวิทยาลัยในการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะด้านพลังงาน เพื่อร่วมกันรักษาโลกให้น่าอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน

สอบถามเพิ่มเติม

สำนักประชาสัมพันธ์

โทร: 02 721 7811–3 อีเมล: pr.pr@dtc.ac.th